สูตรอาหาร
เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
พลังงาน
(กิโลแคลอรี่)
140
โปรตีน
(กรัม)
11
คาร์โบไฮเดรต
(กิโลแคลอรี่)
6
ไขมัน
(กรัม)
8
โซเดียม
(มิลลิกรัม)
2,439
ส่วนประกอบ
กระดูกอ่อน (ล้างให้สะอาด)
280 กรัม
น้ำสะอาด
6 ถ้วยตวง
รากผักชีทุบ
3 ราก
หอมแดงบุบ
4 หัว
ข่าหั่นแว่น
7 แว่น
ตะไคร้หั่นเฉียง
2 ต้น
ใบมะกรูดฉีก
4 ใบ
รสดี รสหมู สูตรลดโซเดียม
2 ช้อนชา
พริกขึ้หนูสดบุบ
18 เม็ด
พริกขี้หนูแห้งทอด
8 เม็ด
น้ำมะนาว
1 ½ ช้อนโต๊ะ
ผักชีใบเลื่อยหั่นหยาบ
2 ต้น
ผักชีไทยหั่นหยาบ
1 ต้น
มะเขือเทศท้อผ่าครึ่ง
1 ลูก
วิธีทำ
1. เตรียมกระดูกอ่อน
วิธีทำต้มแซ่บกระดูกอ่อน อย่างแรกเริ่มต้นด้วยการคัดเลือกกระดูกอ่อนคุณภาพดี โดยสังเกตจากสีและกลิ่นที่สด ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน หลังจากที่เลือกได้แล้วนำกระดูกอ่อนมาล้างให้สะอาดด้วยน้ำเย็น ขัดถูเบาๆ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่อาจติดมา
จากนั้นแช่กระดูกอ่อนในน้ำเย็นประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพื่อไล่เลือดและลดกลิ่นคาว ระหว่างแช่ ให้เปลี่ยนน้ำ 1-2 ครั้งเพื่อให้กระดูกอ่อนสะอาดยิ่งขึ้น
เคล็ดลับ: การแช่กระดูกอ่อนในน้ำเย็นผสมเกลือเล็กน้อย (ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 ลิตร) จะช่วยลดกลิ่นคาวได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้สามารถเพิ่มเหล้าขาวหรือเหล้าจีนลงไปเล็กน้อยเพื่อช่วยดับกลิ่นคาวได้อีกทาง
2. เตรียมสมุนไพร
แล้วต้มแซ่บกระดูกหมูใส่อะไรบ้าง? ในระหว่างที่แช่กระดูกอ่อน ให้เตรียมสมุนไพรต่าง ๆ โดยเริ่มจากการล้างสมุนไพรทุกชนิดให้สะอาด ซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาดหรือกระดาษซับ
หั่นหอมแดงและกระเทียมเป็นชิ้นหยาบ ๆ โดยไม่ต้องหั่นละเอียดเกินไป ทุบข่าและตะไคร้พอแตก โดยใช้มีดทุบเบา ๆ หรือใช้ครกตำ
ฉีกใบมะกรูดเป็นชิ้นเล็กๆ โดยดึงเส้นกลางใบออกก่อน จากนั้นบุบพริกขี้หนูสดพอแตกด้วยด้ามมีดหรือสากครกเบา ๆ และทอดพริกขี้หนูแห้งให้กรอบในน้ำมันร้อนเล็กน้อย ประมาณ 30 วินาที ระวังอย่าให้ไหม้
เคล็ดลับ: การทุบสมุนไพรเบา ๆ จะช่วยให้กลิ่นและรสชาติออกมาได้ดีขึ้น แต่ไม่ควรทุบจนแหลกเกินไป เพราะจะทำให้น้ำซุปขุ่น หากต้องการกลิ่นสมุนไพรที่เข้มข้นมากขึ้น ให้เพิ่มปริมาณสมุนไพรแทนการทุบแรง ๆ
3. ต้มกระดูกอ่อน
ตั้งหม้อขนาดใหญ่พอสมควร ใส่น้ำสะอาด 1.5 ลิตร ตั้งไฟแรงให้น้ำเดือด ระหว่างรอน้ำเดือด ให้นำกระดูกอ่อนที่แช่ไว้มาล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง
เมื่อน้ำเดือด นำกระดูกอ่อนลงลวกในน้ำเดือดประมาณ 2-3 นาที คนเบา ๆ เพื่อให้ความร้อนกระจายทั่วถึง สังเกตจะเห็นฟองและไขมันลอยขึ้นมา ใช้ทัพพีหรือช้อนตาข่ายช้อนฟองและไขมันทิ้ง
หลังจากลวกครบเวลา ให้ตักกระดูกอ่อนขึ้นจากน้ำร้อน เทน้ำที่ลวกทิ้ง และล้างกระดูกอ่อนด้วยน้ำเย็นอีกครั้งเพื่อหยุดการสุก
เคล็ดลับ: การลวกกระดูกอ่อนก่อนต้มจริงจะช่วยให้น้ำซุปใสและรสชาติดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดกลิ่นคาวและสิ่งสกปรกที่อาจหลงเหลืออยู่ ทำให้ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนของคุณสะอาดและน่ารับประทานยิ่งขึ้น
4. ต้มน้ำซุป
ตั้งหม้อใหม่ใส่น้ำสะอาด 1.5 ลิตร ให้เดือด ใส่กระดูกอ่อนที่ลวกแล้วลงไป ตั้งไฟแรงให้เดือดอีกครั้ง เมื่อน้ำเดือดพล่าน ให้ลดไฟลงเป็นไฟอ่อนถึงปานกลาง
ต้มต่อไปประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง หรือจนกระดูกอ่อนเริ่มนุ่ม สามารถใช้ส้อมจิ้มเนื้อที่ติดกระดูกเพื่อทดสอบความนุ่ม ระหว่างต้ม คอยช้อนฟองและไขมันที่ลอยขึ้นมาทิ้งเป็นระยะ เพื่อให้น้ำซุปใสสวย
เคล็ดลับ: การใช้ไฟอ่อนในการต้มจะช่วยให้เนื้อกระดูกอ่อนนุ่มและไม่แข็งกระด้าง หากต้องการให้น้ำซุปต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนเข้มข้นขึ้น สามารถเคี่ยวนานขึ้นหรือลดปริมาณน้ำลงเล็กน้อย แต่หากต้องการน้ำซุปใสๆ ให้เติมน้ำร้อนเพิ่มระหว่างการต้ม
5. ปรุงรสด้วยรสดีซุปก้อน
เมื่อกระดูกอ่อนเริ่มนุ่ม ใส่ รสดี รสหมู สูตรลดโซเดียม 2 ช้อนชา คนให้ละลายจนทั่ว จะช่วยเพิ่มรสชาติต้มแซ่บแบบครบรสในทีเดียว ทำให้การปรุงง่ายขึ้นและรสชาติกลมกล่อม
จากนั้นใส่หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากัน เคี่ยวต่อไปอีกประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้กลิ่นและรสชาติของสมุนไพรออกมา
เคล็ดลับ: หากต้องการรสชาติของต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนที่เข้มข้นมากขึ้น สามารถเพิ่มปริมาณ รสดี รสหมู สูตรลดโซเดียม เป็น 2.5 หรือ 3 ช้อนชาได้ แต่ควรระวังไม่ให้เค็มเกินไป และปรับลดปริมาณน้ำปลาในขั้นตอนต่อไป
6. เพิ่มความเผ็ดและรสเปรี้ยว
ใส่พริกขี้หนูสดที่บุบไว้และพริกขี้หนูแห้งทอดลงไป ปริมาณพริกสามารถปรับได้ตามความชอบความเผ็ด ตามด้วยมะเขือเทศราชินีผ่าครึ่ง มะเขือเทศจะช่วยเพิ่มความเปรี้ยวและความสดชื่นให้กับน้ำซุป
เคี่ยวต่อไปอีก 5 นาที ให้มะเขือเทศเริ่มนิ่มและปล่อยรสชาติลงในน้ำซุป จากนั้นปิดไฟ
7. ปรุงรสเพิ่มเติม
เติมน้ำมะนาวและน้ำปลาลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติและปรับตามต้องการ ควรเริ่มจากปริมาณน้อยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่ม เพื่อให้ได้รสชาติที่สมดุล
หากต้องการเพิ่มความอร่อย สามารถเติมผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะลงไปเล็กน้อย ประมาณ 1/4 ช้อนชา หรือตามชอบ ผงชูรสจะช่วยเพิ่มรสชาติอูมามิ ทำให้น้ำซุปมีรสกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
เคล็ดลับ: สำหรับผู้ที่ต้องการลดโซเดียม สามารถใช้รสดีซุปก้อน รสต้มยำ สูตรโซเดียมต่ำ และลดปริมาณน้ำปลา แทนที่ด้วยน้ำมะนาวเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มรสชาติ
8. ตกแต่งและเสิร์ฟ
โรยหน้าด้วยผักชีใบเลื่อยและผักชีฝรั่งหั่นหยาบ คนเบาๆ ให้ผักสลดลงไปในน้ำซุป การโรยผักชีตอนท้ายจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่น และความสวยงามให้กับจานอาหาร
ตักต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนใส่ชามเสิร์ฟขณะที่ยังร้อนๆ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมและรสชาติที่ดีที่สุด สามารถเสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวหรือข้าวสวยร้อนๆ และผักเคียงตามชอบ เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว หรือผักสดอื่นๆ
เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เมนูต้มแซ่บกระดูกอ่อนที่อร่อยเข้มข้น หอมกรุ่นด้วยกลิ่นสมุนไพร และมีรสชาติครบรสทั้งเผ็ด เปรี้ยว เค็ม ในหม้อเดียว เสิร์ฟต้มแซ่บร้อนๆ พร้อมข้าวเหนียวหรือข้าวสวย และผักเคียงสดๆ รับรองว่าจะเป็นเมนูที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนในครอบครัวได้อย่างแน่นอน
เมนูที่น่าสนใจ
ดูสูตรเมนูอูมามิอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ
เมนูที่น่าสนใจ
ดูสูตรเมนูอูมามิอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ