“ทุกวิกฤติย่อมมีโอกาส” เมื่อเอ่ยถึงวลีอมตะนี้ ชาวสีลมอาจถึงกับต้องขอบคุณหนึ่งในวิกฤติครั้งใหญ่ที่เป็นจุดกำเนิดให้เกิดร้าน “ส้มตำเจ๊โส” ให้พวกเขาได้ฝากท้องเป็นมื้ออร่อยแซ่บนัวในตอนเที่ยงวัน
 

ร้านส้มตำเจ๊โสอยู่คู่ซอยพิพัฒน์ 2 บนถนนคอนแวนต์ มานานกว่า 15 ปี เริ่มตั้งแต่เมื่อครั้งที่ เจ๊โส หรือ โสภา หอกคำ ผู้มีพื้นเพเป็นชาวยโสธรแท้ๆ ต้องกลายเป็นหนึ่งในลูกจ้างที่ตกงานสังเวยวิกฤติเศรษฐกิจฟองสบู่แตก
 

 

เมื่อขาดรายได้ พี่เขยของเจ๊โสจึงทำโต๊ะเล็กๆ ให้น้องสะใภ้ทดลองเปิดร้านขายส้มตำ โดยอาศัยการลองผิดลองถูกทั้งจากประสบการณ์ที่แม่เคยสอนเจ๊โสตำส้มตำสมัยอยู่ยโสธร ผสมผสานกับการลองศึกษากรรมวิธีและสูตรต่างๆ ด้วยตัวเอง จนเกิดเป็นอาหารอีสานรสนัวตำรับเจ๊โสที่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้
 

วัตถุดิบดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

เคล็ดลับความอร่อยอันดับแรกของส้มจำเจ๊โส คือ การทำวัตถุดิบเองหลายอย่าง ทั้งพริกป่น ข้าวคั่ว ดองปูจืด และต้มปลาร้าเอง 

รวมถึงการหมักไก่ย่าง ปลาดุกย่าง ไปจนถึงคอหมูย่างที่เจ๊โสมีสูตรหมักแบบเข้มข้นเข้าเนื้อ ทำให้แทบทุกโต๊ะไม่พลาดที่จะสั่งเมนูของย่างมากินคู่ส้มตำรสจัดจ้าน ที่กินด้วยกันยิ่งอร่อย 
 

 

นอกจากเจ๊โสจะคัดเฉพาะสะโพกไก่เนื้อแน่นมาหมักกับกระเทียม พริกไทย ซอสปรุงรส น้ำตาล น้ำมันหอย และนมข้นจืดที่ช่วยให้ไก่กรอบนอกนุ่มในแล้ว เจ๊โสยังเติมอายิโนะโมะโต๊ะพลัสลงไปอีกนิดหน่อย เพื่อเสริมรสอร่อยถึงเครื่อง

จุดขาย คือ รสชาติจัดจ้าน นัว น้ำตาเล็ด

เจ๊โสวิเคราะห์ความชอบของลูกค้าเอาไว้ว่า “ลูกค้าส่วนหนึ่งชอบรสชาติแบบ “นรก” หน่อย และอีกส่วนใหญ่เน้นเผ็ดไว้ก่อน” ดังนั้น ทุก ‘ตำ’ ไม่ว่าจะเป็นตำปูปลาร้า ตำไหลบัวกุ้งสด ตำข้าวโพด ฯลฯ นอกจากจะสาดพริกลงไปไม่ยั้งแล้ว ยังใส่น้ำปลาร้ารสนัวกลมกล่อม โรยหน้าด้วยเม็ดกระถินให้ครบทุกเทกส์เจอร์ความอร่อยอีกด้วย
 

อีกหนึ่งเคล็ดลับความอร่อย คือ เจ๊โสเลือกใช้อายิโนะโมะโต๊ะพลัสมาตั้งแต่เริ่มแรก เพราะเคยลองใช้ผงชูรสยี่ห้ออื่นแล้ว แต่ไม่เข้ากับรสมือของตัวเอง เจ๊โสจึงวางใจใช้อายิโนะโมะโต๊ะพลัสมาโดยตลอด ทั้งใช้เป็นเครื่องปรุงสดๆ และใช้ในการหมักเนื้อสัตว์ ที่ไม่ว่าจะปรุงแบบไหน ใช้แค่นิดเดียวก็ช่วยชูรสให้อร่อยเด้งแซ่บนัวถึงใจ

“รสชาติของเราดีอยู่แล้ว เพิ่ม อายิโนะโมะโต๊ะพลัส เข้าไปอีกนิดนึงเหมือนช่วยชูรสขึ้นมาเลย” เจ๊โสยืนยันในรสอร่อยที่ไม่ต้องโรยเยอะให้เปลือง
 

จุดแข็ง คือ ความเป็นกันเอง

อีกจุดแข็งที่มัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด คือ ความเป็นกันเองของเจ๊โส ที่มักจะทักทายถามไถ่สารทุกข์สุขดิบลูกค้าเหมือนลูกเหมือนหลาน ทำให้ส้มตำร้านไม่หรูแห่งนี้มีคิวจองแน่นทุกวัน หรือต่อให้คิวเยอะจนเสิร์ฟไม่ทัน จนลูกค้าต้องลุกขึ้นมาบริการตัวเองก็ไม่มีใครบ่น 

เพราะเพื่อแลกกับการได้กินอาหารอีสานรสแซ่บฝีมือเจ๊โส ให้ทำมากกว่านี้ก็ยอม