บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
สูตรอาหาร
เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
พลังงาน
(กิโลแคลอรี่)
227
โปรตีน
(กรัม)
11
คาร์โบไฮเดรต
(กิโลแคลอรี่)
30
ไขมัน
(กรัม)
7
โซเดียม
(มิลลิกรัม)
1024
เนื้อปลาดุกย่าง
25 กรัม
เกล็ดขนมปัง
6 กรัม
มะม่วงดิบ
50 กรัม
หอมแดง
10 กรัม
น้ำปลา
12.5 กรัม
น้ำตาลปี๊บ
10.5 กรัม
อายิโนะโมะโต๊ะ
2.5 กรัม
น้ำมะนาว
35 กรัม
พริกแดงจินดา
5 กรัม
ถั่วลิสง
5 กรัม
เริ่มต้นการทำเมนูยำปลาดุกฟูด้วยการแกะเอาแต่เนื้อปลาดุก ไม่เอาหนัง สับรวมกับเกล็ดขนมปัง การใช้เกล็ดขนมปังจะช่วยให้ปลาดุกฟูมีความกรอบมากขึ้น จากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับทอดให้ร้อนจัด นำส่วนผสมปลาดุกที่เตรียมไว้ลงทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด ทอดจนเหลืองกรอบ ใช้ตะหลิวหรือกระชอนตะล่อมเนื้อปลาดุกให้ติดกันเป็นแพ
เมื่อปลาดุกฟูเป็นสีเหลืองทองสวย ให้ตักขึ้นมาพักบนกระดาษซับน้ำมันให้สะเด็ดน้ำมัน การพักปลาดุกฟูบนกระดาษซับน้ำมันจะช่วยให้ปลาดุกฟูกรอบนานขึ้น และลดความมันส่วนเกิน
เคล็ดลับ: การทอดปลาดุกในน้ำมันที่ร้อนจัดจะช่วยให้ปลาดุกฟูกรอบนาน ไม่อมน้ำมัน
เริ่มจากการผสมน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บในชามผสม คนให้น้ำตาลละลายเข้ากันดี จากนั้นเติมอายิโนะโมะโต๊ะลงไปเล็กน้อย การใช้อายิโนะโมะโต๊ะจะช่วยเพิ่มรสอูมามิให้กับน้ำยำ ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากขึ้น อายิโนะโมะโต๊ะเป็นส่วนผสมลับที่จะช่วยยกระดับรสชาติของยำปลาดุกฟูให้อร่อยยิ่งขึ้น จากนั้นใส่พริกแดงซอย หอมแดงซอย และมะม่วงเปรี้ยวสับลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน การใช้มะม่วงเปรี้ยวจะช่วยเพิ่มรสเปรี้ยวและความสดชื่นให้กับน้ำยำ ทำให้ยำปลาดุกฟูมีรสชาติที่สมดุลมากขึ้น
นำปลาดุกฟูใส่จานเสิร์ฟ ราดน้ำยำลงบนปลาดุกฟู หรือหากต้องการให้ปลาดุกฟูกรอบนานขึ้น สามารถแยกน้ำยำใส่ถ้วยเล็กเสิร์ฟข้าง ๆ ได้ การแยกน้ำยำจะช่วยให้ผู้รับประทานสามารถปรับปริมาณน้ำยำได้ตามชอบ
โรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่วบดหยาบ เพื่อเพิ่มความกรอบและรสชาติที่นัวให้กับยำปลาดุกฟู
เคล็ดลับ: เสิร์ฟยำปลาดุกฟูทันทีหลังจากราดน้ำยำ เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดและปลาดุกฟูยังคงความกรอบ
วิธีรับประทานยำปลาดุกฟูให้อร่อยที่สุด ควรตักปลาดุกฟูพร้อมน้ำยำและถั่วลิสงเข้าปากพร้อมกัน เพื่อให้ได้รสชาติที่ครบถ้วน การรับประทานแบบนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความกรอบของปลาดุกฟู ความเปรี้ยวหวานของน้ำยำ และความมันของถั่วลิสงในคำเดียว
สำหรับผู้ที่ชอบรสจัด สามารถเพิ่มพริกป่นหรือพริกขี้หนูสดซอยลงไปในน้ำยำได้ตามชอบ การเพิ่มพริกจะช่วยเพิ่มความเผ็ดและรสชาติที่เข้มข้น
เคล็ดลับ: หากมียำปลาดุกฟูเหลือ ควรแยกเก็บปลาดุกฟูและน้ำยำในภาชนะที่มีฝาปิดสนิทในตู้เย็น เพื่อรักษาความกรอบ
หากมียำปลาดุกฟูเหลือ สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 1-2 วัน ควรแยกเก็บปลาดุกฟูและน้ำยำในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เพื่อรักษาความกรอบ การเก็บแยกจะช่วยให้ปลาดุกฟูไม่เปียกชื้นและยังคงความกรอบได้นานขึ้น
เมื่อต้องการรับประทาน สามารถนำมาอุ่นในเตาอบหรือหม้อทอดไร้น้ำมันเพื่อให้กลับมากรอบอีกครั้ง ส่วนน้ำยำปลาดุกฟูให้นำออกจากตู้เย็นทิ้งไว้ให้อุณหภูมิห้องก่อนรับประทาน การอุ่นปลาดุกฟูในเตาอบหรือหม้อทอดไร้น้ำมันจะช่วยรักษาความกรอบของปลาดุกฟูได้ดีที่สุด
เคล็ดลับ: ไม่ควรอุ่นปลาดุกฟูในไมโครเวฟ เพราะจะทำให้ปลาดุกฟูเหนียวและไม่กรอบ
ยำปลาดุกฟูเป็นอาหารที่สามารถปรับแต่งรสชาติได้ตามความชอบ หากต้องการให้เผ็ดขึ้น สามารถเพิ่มพริกขี้หนูสดโขลกหรือพริกแห้งป่นลงไปในน้ำยำ การเพิ่มพริกจะช่วยเพิ่มความเผ็ดและรสชาติที่เข้มข้นให้กับยำปลาดุกฟู
สำหรับผู้ที่ชอบรสเปรี้ยว สามารถเพิ่มน้ำมะนาวในน้ำยำ หรือเพิ่มมะม่วงเปรี้ยวสับได้ การเพิ่มรสเปรี้ยวจะช่วยให้ยำปลาดุกฟูมีรสชาติสดชื่นและน่ารับประทานมากขึ้น
หากต้องการให้น้ำยำข้นขึ้น สามารถเพิ่มน้ำตาลปี๊บหรือใช้น้ำมะขามเปียกแทนน้ำมะนาวบางส่วน การใช้น้ำมะขามเปียกจะช่วยให้น้ำยำมีความข้นและรสชาติที่เข้มข้นขึ้น
ดูสูตรเมนูอูมามิอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ
ดูสูตรเมนูอูมามิอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ
ทำแบบสอบถามเพื่อพัฒนา/ปรับปรุงผลิตภัณฑ์
© 2023 Ajinomoto Co., Inc.
เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณ เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กับผู้ใช้ ท่านตกลงใช้คุกกี้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไป ดูรายละเอียด นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ ข้อตกลงสำหรับการใช้งานเว็บไซต์นี้
ท่านสามารถเลือกตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด / ปิดคุกกี้แต่ละประเภทได้ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) ดังนี้ ข้อมูลเพิ่มเติม
คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
Always Active
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ (Analytic Cookies)
คุกกี้เพื่อช่วยในการใช้งาน (Functional Cookies)
คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)