2.   ใส่กะปิโขลกพอเข้ากันอีกครั้ง ใส่พริกไทยเม็ดโขลกให้ละเอียด

จะช่วยให้แกงเลียงกุ้งสดของคุณมีรสชาติที่ลุ่มลึกและเผ็ดร้อนแบบพอดี หลังจากที่โขลกกุ้งแห้ง หอมแดง และกระชายเข้ากันดีแล้ว ให้ใส่กะปิลงไปในครก โขลกส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้ง กะปิจะช่วยเพิ่มความเค็มกลมกล่อมและเพิ่มความลึกของรสชาติให้กับเครื่องแกง 

จากนั้นใส่พริกไทยเม็ดลงไปในครก โขลกให้ละเอียด พริกไทยเม็ดจะเพิ่มรสเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของพริกไทยให้กับเครื่องแกงและช่วยให้ความเผ็ดร้อนกระจายทั่วทั้งหม้อ 

 1.   โขลกกุ้งแห้งให้ละเอียด ใส่หอมแดง กระชายโขลกให้เข้ากัน

แกงเลียงกุ้งสด เป็นเมนูอาหารที่ชูความเผ็ดร้อนจากเครื่องแกง การโขลกกุ้งแห้งให้ละเอียด ใส่หอมแดง กระชายโขลกให้เข้ากัน จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้ 

ให้เริ่มจากการนำกุ้งแห้งมาลงในครกจนละเอียด กุ้งแห้งจะให้รสชาติกลมกล่อมและเพิ่มความเค็มธรรมชาติให้กับแกง ช่วยให้เครื่องแกงเข้ากันดีและช่วยให้แกงมีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น 

จากนั้นใส่หอมแดงที่ปอกเปลือกแล้วลงไปโขลกพร้อมกับกุ้งแห้ง หอมแดงจะช่วยเพิ่มความหอมและความหวานให้กับเครื่องแกง 

ต่อมาใส่กระชายที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลงไปโขลก กระชายมีรสเผ็ดร้อนและกลิ่นเฉพาะที่จะเพิ่มความเข้มข้นและความหอมให้กับแกง โดยแนะนำให้โขลกจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีและละเอียด 

เคล็ดลับ: กุ้งแห้ง หอมแดง และกระชาย เป็นส่วนผสมหลักที่ช่วยเพิ่มความหอมและรสชาติให้แกงเลียง การโขลกให้ละเอียดช่วยทำให้รสชาติของส่วนผสมทั้งหมดผสมผสานเข้ากันได้อย่างดี 

 3.   ตั้งน้ำให้เดือด ใส่เครื่องที่โขลกไว้ และเคี่ยวจนนุ่ม

เริ่มจากการนำน้ำสะอาดใส่หม้อตั้งไฟกลางจนเดือด การต้มน้ำให้เดือดก่อนจะช่วยให้ส่วนผสมที่ใส่ลงไปสุกได้ทั่วถึงและรวดเร็ว จากนั้นใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงไปในน้ำเดือด คนให้เครื่องแกงละลายดีในน้ำ ซึ่งจะช่วยให้รสชาติของเครื่องแกงซึมเข้าสู่น้ำแกง 

แล้วจึงใส่ข้าวโพดอ่อนและฟักทองลงไปในน้ำแกงก่อน เนื่องจากทั้งสองอย่างนี้ต้องใช้เวลาต้มนานกว่าผักอื่น ๆ จากนั้นต้มจนข้าวโพดอ่อนและฟักทองเริ่มนุ่ม ด้วยการใช้ส้อมจิ้ม ถ้าฟักทองเริ่มนิ่มแสดงว่าสุกพอดี 

แล้วค่อยใส่บวบและเห็ดออรินจิลงไป เนื่องจากทั้งสองอย่างนี้สุกเร็ว ไม่ควรใส่เร็วเกินไปเพราะอาจจะทำให้เละ เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนจนบวบและเห็ดนุ่มจะช่วยให้ผักทั้งหมดดูดซับรสชาติจากน้ำแกงและยังคงเนื้อสัมผัสที่ดี 

เคล็ดลับ: ข้าวโพดอ่อนและฟักทองต้องใช้เวลาต้มนานกว่าผักอื่น ๆ หากใส่พร้อมกับบวบหรือเห็ดอาจทำให้บวบและเห็ดเละก่อนที่ฟักทองจะสุก

 4.   ปรุงรสด้วยน้ำปลาและอายิโนะโมะโต๊ะ

เมื่อใส่วัตถุตามที่ต้องการแล้วนั้น ต่อไปวิธีทำแกงเลียงกุ้งสดวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้มีความอร่อยและกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น คือการใส่น้ำปลาลงในหม้อแกง เพราะน้ำปลาจะเพิ่มความเค็มที่กลมกล่อมและกลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยให้ใส่ทีละน้อยและชิมรสเพื่อปรับความเค็มตามชอบ แล้วปรุงรสด้วยอายิโนะโมะโต๊ะเพื่อเพิ่มความกลมกล่อมและทำให้รสชาตินุ่มนวล  

เคล็ดลับ: อายิโนะโมะโต๊ะทำหน้าที่เสริมรสชาติ ช่วยให้รสชาติทุกอย่างกลมกล่อมขึ้น โดยไม่ทำให้รสเค็มหรือเผ็ดจนเกินไป 

 5.   ใส่กุ้งและตำลึง พอเดือดอีกครั้งใส่ใบแมงลักคนให้เข้ากันปิดไฟ

หลังจากที่ปรุงรสตามที่คุณชอบแล้วให้ใส่กุ้งสดลงไปในหม้อ กุ้งจะใช้เวลาในการสุกเพียงไม่กี่นาที ดังนั้น ควรใส่กุ้งในขั้นตอนนี้เพื่อให้เนื้อกุ้งนุ่มและไม่แข็งเกินไป แล้วค่อยใส่ตำลึงลงไปหลังจากใส่กุ้ง การใส่ตำลึงในขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผักคงความสดและนุ่มในเวลาเดียวกัน 

จากนั้นใส่ใบแมงลักลงไป ใบแมงลักจะให้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และไม่ควรใส่ตั้งแต่ต้น เพราะใบแมงลักสุกเร็วและอาจทำให้เสียกลิ่นหากใส่เร็วเกินไป 

เคล็ดลับ: ใส่กุ้งแล้วต้มจนพอสุก ไม่ควรนานเกินไป เพราะกุ้งต้องใส่หลังจากปรุงรสน้ำแกงเพื่อให้เนื้อยังคงนุ่มและหวาน การต้มนานเกินไปอาจทำให้เนื้อกุ้งแข็งและเสียรสชาติ 

ขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นนี้ถือได้ว่าเป็นสูตรแกงเลียงกุ้งสดที่เต็มไปด้วยความอร่อยและกลมกล่อม ที่คุณก็สามารถทำเองได้