1.  เคี่ยวกะทิและผัดพริกแกง

เริ่มต้นการทำพะแนงไก่ด้วยการเคี่ยวหัวกะทิในกระทะหรือหม้อใบกลางบนไฟปานกลาง คนกะทิเบา ๆ จนกว่าจะแตกมันเล็กน้อย ซึ่งจะสังเกตเห็นน้ำมันจากกะทิลอยขึ้นมาบนผิวหน้า

เมื่อกะทิแตกมันแล้ว ใส่พริกแกงพะแนงลงไป ผัดให้เข้ากันกับกะทิจนมีกลิ่นหอม ใช้ไฟอ่อนถึงปานกลางเพื่อไม่ให้พริกแกงไหม้

ขั้นตอนนี้เป็นหัวใจสำคัญของการทำพะแนงไก่ให้อร่อย เพราะการผัดพริกแกงกับกะทิจนหอมจะเป็นพื้นฐานของรสชาติที่ดี ควรใช้เวลาในขั้นตอนนี้ประมาณ 5-7 นาที เพื่อให้พริกแกงสุกดีและมีกลิ่นหอมเต็มที่

 2.  เติมหางกะทิและปรุงรส

เมื่อพริกแกงหอมดีแล้ว เติมหางกะทิลงไป คนให้เข้ากัน หากแกงข้นเกินไปสามารถเติมน้ำสะอาดได้ทีละน้อย คนให้เข้ากัน การเติมหางกะทิจะช่วยให้แกงพะแนงไก่มีความข้นที่พอเหมาะ ไม่เหลวหรือข้นจนเกินไป

ปรุงรสด้วยน้ำปลา อายิโนะโมะโต๊ะ และน้ำตาลปี๊บ คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี ชิมรสและปรับตามความชอบ โดยทั่วไปแล้ว พะแนงไก่จะมีรสชาติหวานนำ ตามด้วยเค็มและเผ็ดเล็กน้อย การใช้อายิโนะโมะโต๊ะจะช่วยเพิ่มรสอูมามิให้กับแกง ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มเกลือหรือน้ำปลามากเกินไป ซึ่งเป็นเทคนิคสำคัญในการทำให้แกงพะแนงไก่มีรสชาติที่สมดุลและน่ารับประทาน

เคล็ดลับ: การใช้น้ำตาลปี๊บจะให้รสหวานและกลิ่นที่เข้ากับแกงไทยได้ดีกว่าน้ำตาลทรายทั่วไป

 3.  ใส่เนื้อไก่และผัก

นำอกไก่ที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำลงไปต้มในน้ำแกง คนเบา ๆ ให้ไก่จมอยู่ในน้ำแกง ใช้ไฟปานกลาง ต้มจนไก่สุกทั่วถึง

เพื่อให้เนื้อไก่นุ่มและรสชาติซึมเข้าเนื้อ ควรหมักไก่ด้วยซีอิ๊วขาวและพริกไทยเล็กน้อยก่อนนำมาต้มในแกง วิธีนี้จะช่วยให้เนื้อไก่มีรสชาติที่ดีขึ้นและนุ่มขึ้น

ก่อนปิดไฟ ใส่มะเขือพวงลงไป ปิดฝาประมาณ 2-3 นาทีเพื่อให้มะเขือพวงสุกพอดีและยังคงสีเขียวสดสวย มะเขือพวงจะช่วยเพิ่มรสชาติและเนื้อสัมผัสที่น่าสนใจให้กับแกงพะแนงไก่ นอกจากนี้ยังเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับจานนี้อีกด้วย

เคล็ดลับ: หากต้องการให้ไก่นุ่มเด้ง ให้หมักไก่ด้วยน้ำมันพืชและแป้งมันสำปะหลังเล็กน้อยก่อนนำไปต้มในแกง

 4.  แต่งหน้าและจัดเสิร์ฟ

เมื่อแกงพะแนงไก่สุกได้ที่แล้ว ปิดไฟและเตรียมจัดเสิร์ฟ ตักใส่ชามหรือถ้วยแกง โรยหน้าด้วยใบมะกรูดฉีกและซอย พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง และใบโหระพา

นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มพริกชี้ฟ้าแดงผ่าครึ่งลงไปในแกงเพื่อเพิ่มความเผ็ดและสีสันให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น การเพิ่มพริกสดจะช่วยให้แกงพะแนงไก่มีความสดชื่นและเผ็ดร้อนที่น่าสนใจ

เคล็ดลับ: การทำพะแนงไก่ไว้ค้างคืนจะทำให้รสชาติเข้าขึ้น เพราะเครื่องแกงได้เวลาซึมเข้าเนื้อไก่มากขึ้น

 5.  การปรับแต่งรสชาติและความเผ็ด

พะแนงไก่เป็นแกงที่สามารถปรับแต่งรสชาติได้ตามความชอบ หากต้องการให้เผ็ดขึ้น สามารถเพิ่มพริกขี้หนูสดโขลกหรือพริกแห้งป่นลงไปในแกงได้ การปรับความเผ็ดให้เหมาะกับความชอบส่วนตัวจะช่วยให้การรับประทานแกงพะแนงไก่อร่อยมากยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ที่ชอบรสเปรี้ยว สามารถบีบมะนาวเล็กน้อยลงไปในชามก่อนรับประทานเพื่อเพิ่มรสชาติให้สดชื่นขึ้น รสเปรี้ยวจะช่วยตัดความมันของกะทิและเพิ่มมิติของรสชาติให้น่าสนใจยิ่งขึ้น

หากต้องการให้แกงข้นขึ้น สามารถเพิ่มกะทิหรือใช้แป้งข้าวเจ้าละลายน้ำเล็กน้อยเทลงไปในแกงแล้วคนให้เข้ากัน การปรับความข้นของแกงจะช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่พอดีตามความชอบ

 6.  การเก็บรักษาและอุ่นร้อน

หากมีพะแนงไก่เหลือ สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2-3 วัน ควรเก็บในภาชนะที่มีฝาปิดสนิทเพื่อรักษากลิ่นและรสชาติ การเก็บรักษาที่ถูกต้องจะช่วยให้สามารถเก็บแกงพะแนงไก่ไว้รับประทานได้หลายมื้อ เมื่อต้องการรับประทาน ให้อุ่นบนเตาด้วยไฟอ่อน คนเบา ๆ จนร้อนทั่วถึง หากแกงข้นเกินไป สามารถเติมน้ำหรือกะทิเล็กน้อยระหว่างอุ่น การอุ่นด้วยไฟอ่อนจะช่วยรักษารสชาติและเนื้อสัมผัสของแกงพะแนงไก่ได้ดีที่สุด