บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
สูตรอาหาร
เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
พลังงาน
(กิโลแคลอรี่)
729.8
โปรตีน
(กรัม)
26.2
คาร์โบไฮเดรต
(กิโลแคลอรี่)
87.4
ไขมัน
(กรัม)
30.6
โซเดียม
(มิลลิกรัม)
N.A.
กะทิธัญพืช*
50 มิลลิลิตร
พริกแกงเผ็ด
30 กรัม
กะปิ
5 กรัม
สะโพกไก่
120 กรัม
น้ำสต๊อก
300 มิลลิลิตร
ฟักเขียวแก่
150 กรัม
น้ำตาลทราย
20 กรัม
รสดี รสไก่
2.5 กรัม
ใบมะกรูด
1 กรัม
พริกชี้ฟ้าแดง
10 กรัม
เนื่องจากกะทิถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของแกงฟักไก่ การเคี่ยวกะทิกับธัญพืชผัดกับพริกแกง กะปิ จนกะทิแตกมัน จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยให้แกงฟักไก่มีรสชาติที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น โดยให้ใช้กระทะขนาดพอเหมาะ ตั้งไฟกลาง เติมกะทิลงในกระทะ ความหวานมันจากกะทิ ช่วยทำให้แกงมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นและกลมกล่อม หรือจะใช้กะทิธัญพืชแทนกะทิมะพร้าวก็ได้เพื่อให้ได้ความเบาและสุขภาพที่ดี
จากนั้นใส่พริกแกงลงไปผัดกับกะทิ เพื่อให้กลิ่นหอมของสมุนไพรในพริกแกงออกมาเต็มที่ และควรผัดจนพริกแกงเริ่มหอมและมีความเข้มข้น ต่อมาให้ใส่กะปิลงไปผัดพร้อมพริกแกง กะปิจะช่วยเพิ่มความเค็มและรสชาติที่ซับซ้อนให้แกง และควรผัดจนกะปิเข้ากันดีกับพริกแกง
ผัดต่อไปเรื่อย ๆ จนกะทิแตกมัน หรือการที่กะทิเริ่มแยกตัวเป็นน้ำมันและของเหลว จะช่วยทำให้เนื้อแกงไก่ฟักเขียวมีความมันและเข้มข้น
เคล็ดลับ: การแตกมันของกะทิ จะช่วยให้แกงฟักกะทิใส่ไก่มีความเข้มข้นและหอมมากขึ้น เพราะน้ำมันจากกะทิจะเคลือบพริกแกงและกะปิ ทำให้รสชาติที่ได้มีความกลมกล่อมและซับซ้อนยิ่งขึ้น และควรเคี่ยวเพื่อให้กะทิแตกมันเท่านั้น อย่าผัดนานเกินไป เพราะอาจทำให้พริกแกงขม
หลังจากที่ผัดพริกแกงและกะทิจนแตกมันแล้ว ให้ใส่เนื้อสะโพกไก่ที่หั่นชิ้นพอดีคำลงไปในกระทะ
ผัดเนื้อไก่กับพริกแกงจนไก่เริ่มเปลี่ยนสีและซึมซับความหอมจากเครื่องแกง เพื่อให้ไก่นุ่มและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
ค่อย ๆ เติม น้ำสต๊อกไก่ ลงในกระทะ เพื่อเพิ่มความหวานและรสชาติกลมกล่อมของแกง น้ำสต๊อกจะช่วยให้เนื้อไก่นุ่มและซึมซับน้ำแกงได้ดี คนเบา ๆ ให้เครื่องปรุงเข้ากันดี จากนั้นปล่อยให้น้ำสต๊อกเดือดเล็กน้อย
ใส่ฟักเขียวที่หั่นชิ้นพอดีคำลงในน้ำแกง รอจนเดือด จากนั้นลดไฟให้ปานกลาง ฟักเขียวจะต้องต้มจนสุกนุ่มและซึมซับน้ำแกง เพื่อให้ได้เนื้อฟักที่นุ่มและรสชาติที่ดีระหว่างนี้ควรหมั่นคนเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ฟักติดก้นหม้อ
หลังจากที่ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ให้ใส่น้ำตาลทรายลงไปในน้ำแกงเพื่อเพิ่มความหวานเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยกลบรสเค็มจากน้ำปลาและทำให้รสชาติของแกงกลมกล่อมขึ้น ปริมาณน้ำตาลทรายควรใส่ตามความต้องการและควรเพิ่มทีละน้อยเพื่อให้รสชาติไม่หวานเกินไป
จากนั้นใส่รสดี รสไก่ หรือผงปรุงรสลงไปในน้ำแกงเพื่อเพิ่มความลึกของรสชาติและทำให้รสชาติกลมกล่อมขึ้นควรใส่ปริมาณพอเหมาะเพื่อไม่ให้แกงมีรสเค็มหรือหวานเกินไป ไม่โดดเด่นไปทางใดทางหนึ่ง
หลังจากใส่เครื่องปรุงรสทั้งหมดแล้ว ควรชิมรสชาติของแกงเพื่อปรับรสชาติให้กลมกล่อมตามที่ต้องการ
เคล็ดลับ: ควรปรับรสชาติแกงฟักกะทิใส่ไก่ทีละน้อยและชิมบ่อยๆ เพื่อไม่ให้รสชาติผิดเพี้ยน
เมื่อฟักเขียวต้มจนเริ่มนิ่ม ให้ใส่พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง จะช่วยเพิ่มสีสันและความเผ็ดร้อนให้กับแกง และการใส่พริกในขั้นตอนนี้จะช่วยให้พริกยังคงความกรอบและไม่ปล่อยความเผ็ดออกมาเร็วเกินไป ไม่ทำให้แกงเสียสมดุล จากนั้นใส่ใบมะกรูดที่ฉีกหรือหั่นลงไปเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
เมื่อใส่พริกและใบมะกรูดแล้วให้ปิดไฟทันที เพื่อรักษาความสด กลิ่นหอมของใบมะกรูด และความกรอบของพริก
จัดแกงและข้าวให้ดูสะอาดตาและน่ากิน อาจเติมพริกชี้ฟ้าแดงหรือใบมะกรูดลงบนจานเพื่อความสวยงามและกลิ่นหอม และการเสิร์ฟอาหารเมื่อยังร้อนจะช่วยให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
แกงฟักไก่ เป็นอีกเมนูแนะนำที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหาร เป็นเมนูที่น่ากิน และน่าทำโดยคุณสามารถทำตามวิธีนี้ได้เลย
ดูสูตรเมนูอูมามิอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ
ดูสูตรเมนูอูมามิอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ
ทำแบบสอบถามเพื่อพัฒนา/ปรับปรุงผลิตภัณฑ์
© 2023 Ajinomoto Co., Inc.
เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณ เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กับผู้ใช้ ท่านตกลงใช้คุกกี้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไป ดูรายละเอียด นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ ข้อตกลงสำหรับการใช้งานเว็บไซต์นี้
ท่านสามารถเลือกตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด / ปิดคุกกี้แต่ละประเภทได้ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) ดังนี้ ข้อมูลเพิ่มเติม
คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
Always Active
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ (Analytic Cookies)
คุกกี้เพื่อช่วยในการใช้งาน (Functional Cookies)
คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)