บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
สูตรอาหาร
เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
พลังงาน
(กิโลแคลอรี่)
466
โปรตีน
(กรัม)
35
คาร์โบไฮเดรต
(กิโลแคลอรี่)
62.2
ไขมัน
(กรัม)
8.6
โซเดียม
(มิลลิกรัม)
N.A.
น้ำสต๊อก
300 กรัม
ข้าวสวยกล้อง
165 กรัม
ปลาทูสดทั้งตัว (ดิบ)
250 กรัม
หอมแดง
10 กรัม
ตะไคร้
15 กรัม
ข่าอ่อน
15 กรัม
รากผักชีไทย
3 กรัม
ใบมะกรูด
2 กรัม
รสดี รสไก่
3 กรัม
น้ำปลา
5 กรัม
น้ำตาล
2 กรัม
เกลือ
3 กรัม
มะนาวผง
10 กรัม
พริกจินดาแดง
3 กรัม
ต้นหอม
1 ต้น
ผักชีฝรั่ง
2 กรัม
สำหรับขั้นตอนแรกของการทำเมนูต้มยำปลาทูนั่นก็คือการเตรียมปลาทูสด ปลาทูสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าหรือตลาดปลาทั่วไป พร้อมทั้งเตรียมวัตถุดิบสำคัญอื่น ๆ อย่างเช่น เครื่องต้มยำ หอมแดง รากผักชีไทย ต้นหอม ผักชีฝรั่ง เครื่องปรุงจำพวกรสดี รสไก่ พริกจินดาแดง น้ำตาล เกลือ มะนาวผง เตรียมข้าวกล้องไว้หุงรับประทานคู่กัน
เคล็ดลับ : การเลือกปลาทูสดที่มีลักษณะตานูนสีตาสดใสไม่ขุ่น บริเวณลำตัวมีเมือกทั่วตัว เหงือกสีแดงอมชมพูไม่ม่วงคล้ำ กดที่ตัวปลาแล้วรอยยุบเด้งคืนสภาพเดิมและเลือกปลาทูที่ท้องหนาคือมองบริเวณท้องแล้วไม่เห็นรอยก้าง เท่านี้ก็จะได้ปลาทูสด ๆ พร้อมทำเมนูให้น่าทานแบบท้องไม่แตก
ปลาทูสดที่เตรียมไว้สำหรับทำต้มยำปลาทูสด นำปลามาล้างด้วยน้ำเปล่าผสมน้ำเกลือเล็กน้อย จากนั้นให้นำไส้ปลาทูออกโดยวิธีการดึงเหงือกและไส้ออกมาพร้อม ๆ กัน ไม่ควักออกทางท้องเพราะจะทำให้ปลาทูไม่น่ารับประทาน เมื่อนำไส้ปลาออกจนสะอาดแล้วนำไปล้างน้ำซ้ำอีกหนึ่งรอบหรือล้างจนกว่าคราบเลือดปลาทูสดจะหมดไป ใส่ภาชนะพักเอาไว้
เคล็ดลับ : ปลาทูสดจะมีเกล็ดบาง ๆ บริเวณผิว ควรใช้ช้อนขูดเกล็ดปลาออกทั้งสองด้าน ขูดแบบเบามือมากที่สุด
เมื่อเตรียมวัตถุดิบครบทุกชนิดแล้ว ให้ตั้งหม้อทำน้ำสต๊อกจากไก่ สามารถใช้ไก่สดได้ แต่จะง่ายและสะดวกมากกว่าหากใช้รสดี รสไก่ จะได้น้ำสต๊อกที่มีความเข้มข้น มีกลิ่นหอม พร้อมสำหรับนำไปทำเมนูต้มยำปลาทู
นำน้ำสต๊อกไปตั้งในหม้ออีกหนึ่งใบ ใส่เกลือป่นตามลงไปเล็กน้อย ตั้งเตาด้วยไฟกลางค่อนอ่อน ใส่หอมแดงและรากผักชีลงไปต้มในหม้อ เมื่อน้ำเริ่มร้อนเป็นฟองปุด ๆ อีกครั้งให้ใส่เครื่องต้มยำ ข่าหั่นแว่น ตะไคร้หั่นเฉียง ต้มต่อจนน้ำซุปเดือดพล่าน ตามด้วยการใส่ปลาทูสดลงไปในหม้อ เบาไฟลงอีกเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำต้มยำปลาทูมีความขุ่น
เคล็ดลับ : เมื่อใส่ปลาทูลงไปในน้ำซุปต้มยำแล้ว ควรเบาไฟให้อ่อนที่สุด เพื่อไม่ให้น้ำขุ่น และหากไฟแรงจนเกินไปจะส่งผลให้เนื้อหนังปลาทูแตกได้
หลังจากใส่ปลาทูเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้สักพักน้ำจะเริ่มเดือดเบา ๆ คอยช้อนฟองออกอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้น้ำซุปที่ใสไม่ขุ่น ปรุงรสชาติต้มยำปลาทูสดให้อร่อยเพิ่มขึ้น ควรชิมรสชาติก่อนการปรุงรสทุกครั้ง น้ำปลา น้ำตาล เกลือป่น ผงมะนาว คนเล็กน้อยให้รสชาติเข้าที่ ชิมรสชาติอีกครั้งหากขาดรสใดค่อย ๆ ทยอยเติมลงไปได้ในขั้นตอนนี้
เคล็ดลับ : ในช่วงระหว่างก่อนปรุงรสชาติ ไม่ควรคนในหม้อเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ปลาทูสดส่งกลิ่นคาวออกมาได้
หากเช็กว่าปลาทูสุกได้ที่แล้วให้ปิดไฟลง ตามปกติแล้วปลาทูสดใช้เวลาต้มไม่นาน ประมาณ 7-10 นาที ปลาทูจะสุกได้ที่ ผิวเต่งตึง ไม่แตกแยกส่วน
เมื่อปลาสุกดีแล้วให้ตักต้มยำปลาทูใส่ในภาชนะจัดเสิร์ฟ ตำพริกจินดาแดงแบบหยาบโรยทับด้านบนของต้มยำ ตามด้วยโรยผักชีฝรั่งหั่น 1 เซนติเมตร และใบมะกรูดฉีกลงไปบนต้มยำ คลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากันดีชิมรสชาติอีกครั้ง ถ้ารสชาติได้ที่สามารถเสิร์ฟได้ทันที
เคล็ดลับ : หากต้องการความเผ็ดผสมความหอมของพริก แนะนำให้ใส่พริกขี้หนูสวนใหญ่สีเขียวรวมกับพริกจินดาแดงด้วย ไม่แนะนำให้ใส่พริกขี้หนูสวนเล็กเพราะรสชาติจะเผ็ดแสบมากจนเกินพอดี ทานไม่อร่อยเท่าที่ควร
ต้มยำปลาทูสดเป็นเมนูอาหารที่ทำได้ค่อนข้างง่าย แถมยังให้คุณค่าทางโภชนาการที่สูง เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เพียงแค่เลือกวัตถุดิบให้ดีจะได้ต้มยำแสนอร่อย ซึ่งวิธีทำต้มยำปลาทูสูตรนี้ ผ่านการคัดสรรมาแน่นอนแล้วว่าแซ่บ จี๊ด ไม่มีกลิ่นคาว น้ำซุปใสแจ๋วแบบไม่ขุ่น ให้ทานคู่กับข้าวกล้องสวยหรือข้าวสวยหอมมะลิอร่อยไม่แพ้เมนูอื่นแน่นอน
ดูสูตรเมนูอูมามิอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ
ดูสูตรเมนูอูมามิอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ
ทำแบบสอบถามเพื่อพัฒนา/ปรับปรุงผลิตภัณฑ์
© 2023 Ajinomoto Co., Inc.
เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณ เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กับผู้ใช้ ท่านตกลงใช้คุกกี้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไป ดูรายละเอียด นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ ข้อตกลงสำหรับการใช้งานเว็บไซต์นี้
ท่านสามารถเลือกตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด / ปิดคุกกี้แต่ละประเภทได้ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) ดังนี้ ข้อมูลเพิ่มเติม
คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
Always Active
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ (Analytic Cookies)
คุกกี้เพื่อช่วยในการใช้งาน (Functional Cookies)
คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)