บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
ความดันโลหิตสูง โรคนี้ใกล้ตัวกว่าที่ทุกคนคิด เพราะไม่ว่าจะอายุน้อยหรือมากก็มีโอกาสเป็นได้ รวมถึงเป็นโรคที่ไม่มีอาการแสดงให้เห็นชัดเจน แต่ในบางรายอาจมีอาการเตือนอย่างปวดศีรษะ และเหนื่อยง่ายกว่าปกติ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นทั่วไปอาจทำให้ถูกมองข้ามได้ โดยจากข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้คาดการณ์ไว้ว่า ในปี 2025 จะมีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้นเป็น 1.56 พันล้านคนเลยทีเดียว แสดงให้เห็นว่าเป็นโรคที่เราเองก็มีสิทธิที่จะป่วยเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน
เพราะฉะนั้นการดูแลตัวเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกิน หรือโภชนาการ เรามาลองดูกันดีกว่าว่า หากอยากหลีกเลี่ยงโรคความดันโลหิตสูงให้มากที่สุดนั้น ควรต้องเลือกกินอย่างไรบ้าง
• เพิ่มธัญพืชเต็มเมล็ด ไม่ขัดสี
ธัญพืชมีกรดอะมิโน และเป็นแหล่งรวมเส้นใยอาหาร ช่วยยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบที่ผนังหลอดเลือด และช่วยในการขยายตัวของหลอดเลือดทำให้ความดันโลหิตลดลง
• ควรกินในปริมาณ 3 ส่วน/วัน
- ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวบาร์เลย์ และข้าวสวย 1 ส่วน ประมาณ 55 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ
- ควินัว 1 ส่วน ประมาณ 50 กรัม
- ขนมปังโฮลวีต 1 ส่วน ประมาณ 1 แผ่น
• ตัวอย่างธัญพืชที่มีประโยชน์ และหากินได้ง่าย
- ข้าวกล้อง
มีไขมันต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอลและไขมันทรานส์ ช่วยลดการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง
- ข้าวโอ๊ต
มีอะวีแนนตรามายด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านการอักเสบในหลอดเลือด และควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ
- ควินัว
มีใยอาหาร แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ช่วยลดความดันโลหิต ควบคุมระดับคอเลสเตอรอล และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
- ขนมปังโฮลวีต
มีเส้นใยอาหารสูง ช่วยในการลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ
• เน้นการกินผักและผลไม้
ในผักและผลไม้อุดมไปด้วยโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีผลช่วยควบคุมความดันโลหิต โดยควรเลือกกินให้หลากสี หลากชนิด หลีกเลี่ยงผักผลไม้กระป๋อง หรือผลิตภัณฑ์แปรรูป
• ควรกินในปริมาณ 4-5 ส่วน/วัน
- ผัก 1 ส่วน สามารถประมาณได้ง่าย ๆ คือ ผักต้มสุกประมาณ 1 ทัพพี และผักสดประมาณ 2 ทัพพี
- ผลไม้ 1 ส่วน สามารถประมาณได้ง่าย ๆ คือ ผลไม้ขนาดเล็ก เช่น องุ่น ลำไย ลิ้นจี่ ประมาณ 6 – 8 ผล
ผลไม้ขนาดกลาง เช่น กล้วย ส้ม ชมพู่ แอปเปิล ประมาณ 1 – 2 ผล
ผลไม้ขนาดใหญ่ เช่น แตงโม สับปะรด มะละกอ แคนตาลูป ประมาณ 6 – 8 ชิ้น
• ตัวอย่างผักและผลไม้ที่มีประโยชน์ และหากินได้ง่าย
- แคร์รอต
มีวิตามินเอและใยอาหารสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ หลอดเลือด และความดันโลหิต
- ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า และบรอกโคลี
มีแมกนีเซียมและโพแทสเซียม ช่วยปรับสมดุลโซเดียมในร่างกาย ทำให้ความดันโลหิตต่ำลงได้
- กล้วย
เป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงเป็นอันดับต้น ๆ ช่วยควบคุมความดันโลหิตได้ดี และยังบำรุงหัวใจและหลอดเลือดได้ด้วย
- ส้ม
อุดมไปด้วยโพแทสเซียม และมีปริมาณโซเดียมค่อนข้างต่ำ จึงช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี
- แอปเปิล
มีสารฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหลอดเลือด และช่วยควบคุมความดันโลหิต
• ดื่มนมไขมันต่ำ หรือไม่มีไขมัน
นมที่ไขมันต่ำหรือไม่มีไขมันเป็นแหล่งที่ดีของแคลเซียม โปรตีน และวิตามินดี ซึ่งช่วยเสริมสร้างกระดูกและช่วยในการลดความดันโลหิต
• ควรกินในปริมาณ 2-3 ส่วน/วัน
- นม 1 ส่วน ประมาณ 280 มิลลิลิตร
- โยเกิร์ต 1 ส่วน ประมาณ 1 ถ้วย
- ชีส 1 ส่วน ปริมาณ 1 แผ่น
• ตัวอย่างผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำ
- นมไขมันต่ำ
มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม จึงมีส่วนช่วยลด ป้องกัน และควบคุมความดันโลหิตสูงได้
- โยเกิร์ตไขมันต่ำ
มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ช่วยคงระดับความดันโลหิตให้สมดุล และโพรไบโอติกในโยเกิร์ตสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลได้
- ชีสไขมันต่ำ
มีไขมันต่ำแต่ให้โปรตีนสูง และมีปริมาณโซเดียมค่อนข้างต่ำ ทำให้ร่างกายควบคุมความดันโลหิตได้ดี
• เปลี่ยนมากินอาหารที่มีโปรตีนแบบไม่แปรรูป
การกินโปรตีนที่ไม่ผ่านการแปรรูป สามารถช่วยลดไขมันทรานส์และโซเดียมให้กับร่างกาย จึงทำให้สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ดี
• ควรกินในปริมาณที่น้อยกว่า 6 ส่วน/วัน
- เนื้อสัตว์สุก 1 ส่วน ไม่เกินประมาณ 180 กรัม หรือไม่เกิน 12 ช้อนโต๊ะ
• ตัวอย่างอาหารที่มีโปรตีนแบบไม่แปรรูป
- เนื้อปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน
มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยขยายหลอดเลือด และปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง
- เนื้อไก่ไม่ติดมัน หมูเนื้อแดงไม่ติดมัน หรือเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ
ช่วยลดปริมาณไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอล ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคความดันโลหิต และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดมากขึ้นได้
• เลือกอาหารที่มีไขมันดี
อาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และความดันโลหิตได้
• ควรกินในปริมาณ 2-3 ส่วน/วัน
- น้ำมัน 1 ส่วน ประมาณ 1 ช้อนชา
- อะโวคาโด 1 ส่วน ประมาณ 100 กรัม
• ตัวอย่างอาหารที่มีไขมันดี
- น้ำมันมะกอก
มีสารโพลีฟีนอลที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดความดันโลหิต
- อะโวคาโด
มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งจากการวิจัยพบว่า หากเราได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่มากพอจะสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้
อาหารและโภชนาการเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ช่วยในเรื่องของ ‘โรคความดันโลหิตสูง’ ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิต หมั่นออกกำลังกาย ไม่สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และจัดการความเครียดให้ดี
อายิโนะโมะโต๊ะขอเป็นอีกแรงเชียร์ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถปรับมุมมองด้านการกินให้ดีขึ้น และพร้อมมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะสร้างสังคม “กินดี มีสุข“ กินดีด้วยโภชนาการที่ดีขึ้น มีสุขด้วยสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับสังคมไทยในอนาคตต่อไป