เรามุ่งมั่นที่จะเป็นกลุ่มบริษัทผู้ส่งมอบแนวทางการแก้ปัญหาและนวัตกรรม ที่เกี่ยวกับ อาหาร และสุขภาพมุ่งเน้นการบริหารจัดการทรัพยากร และการทำงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อร่วมส่งเสริมความยั่งยืนของโลก

เมนูที่ได้รับความนิยม

บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ

ajinimoto
hathamberger
สูตรอาหาร

สูตรอาหาร

เมนูที่ได้รับความนิยม

icon2

เรื่องราวกินดีมีสุข

บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ

ติดตามเราได้ที่

facebookicon2icon2

สิ้นปีนี้ได้เวลารีเซต เช็กร่างกาย กับ 3 สัญญาณที่อย่ามองข้าม

แชร์ไปยัง

icon2

ปีที่ผ่านมา เราทุ่มเวลาให้กับงาน และใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ จนมองข้ามเสียงเล็ก ๆ จากร่างกายไปทีละนิด อายิโนะโมะโต๊ะชวนมาสำรวจว่า ร่างกายของเรากำลังพยายามบอกอะไร และถึงเวลาหรือยัง ที่เราจะหันมาใส่ใจ ดูแล ฟื้นฟูสุขภาพให้ดีขึ้นกว่าเดิมในปีต่อไป


 

  1. อาการหูอื้อ การได้ยินลดลง

การที่ต้องคอยเงี่ยหูฟัง หรือถามซ้ำ ๆ บ่อยขึ้น อาการนี้อาจไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่คิด… อย่าปล่อยผ่าน เพราะมันอาจไม่ได้เกิดจากความเหม่อหรือเหนื่อยล้าแค่นั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนที่บอกถึงปัญหาสุขภาพการได้ยินที่ต้องรีบแก้ไข เริ่มดูแลตั้งแต่วันนี้ ด้วยการเลือกกินอาหารและสารอาหารที่ช่วยบำรุงหู

แมกนีเซียม (Magnesium)

แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีบทบาทต่อการควบคุมความดัน ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดหดตัวมากเกินไป ทำให้เลือดส่งออกซิเจนไหลเวียนได้ดี ช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะหูขาดออกซิเจน นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องระบบประสาทหูจากเสียงดังได้อีกด้วย

ส่วนใหญ่พบใน

ธัญพืชเต็มเมล็ด เมล็ดพืช พืชตระกูลถั่ว เช่น เมล็ดฟักทอง เมล็ดเจีย อัลมอนด์ 

   เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง

ผักใบเขียว เช่น บรอกโคลี ผักโขม ปวยเล้ง คะน้า

พืชผักกลุ่มฟักทอง ฟัก แฟง แตง มะระ ซูกินี บวบ น้ำเต้า 

ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต นม คอตเทจชีส

ดาร์กช็อกโกแลต

โพแทสเซียม (Potassium)

โพแทสเซียม ช่วยควบคุมสมดุลของของเหลวในเลือดและเนื้อเยื่อต่าง ๆ รวมถึงของเหลวในหูชั้นในที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบการได้ยิน แต่เมื่ออายุมากขึ้นระดับของเหลวในหูมักลดลงตามธรรมชาติ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการได้ยิน ที่ที่เราเรียกว่า “หูตึง (Presbycusis)” นั่นเอง

ส่วนใหญ่พบใน

ขนมปังโฮลวีท ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต

เนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว และตับ 

เนื้อปลา เช่น ปลาสลิด ปลากะพงขาว ปลาอินทรีย์ ปลาช่อน ปลาทู ปลาแซลมอน

ผักต่าง ๆ เช่น ผักโขม ผักบุ้ง ผักกาดขาว คะน้า ผักกวางตุ้ง ยอดฟักแม้ว มันเทศ 

   มันฝรั่ง ฟักทอง หัวปลี หน่อไม้

ถั่วและธัญพืช เช่น แมคคาเดเมีย ถั่วแระ แปะก๊วย อัลมอนด์ ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์  

   เม็ดฟักทอง เกาลัด

วิตามินบี 12 (Vitamin B12)

ช่วยบำรุงเส้นประสาทการได้ยินและระบบประสาทโดยรวม ทำให้การส่งสัญญาณเสียงจากหูไปยังสมองมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ที่ทำให้การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงหูชั้นในได้ดี ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์รับเสียง แต่อายุที่มากขึ้นมีผลต่อการดูดซึม ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะการได้ยินที่ลดลง การเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 12 อย่างเพียงพอ เป็นอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยดูแลสุขภาพหูและการได้ยิน

ส่วนใหญ่พบใน

เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อไก่ และตับ

ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนต์ ชีส โยเกิร์ต

ไข่ โดยเฉพาะไข่แดง

ผัก เช่น เห็ด ผักโขม บีทรูท มันฝรั่ง ฟักทอง

  

  1. อาการปวดตา ตาล้า

ใครที่มักจ้องจอคอมทั้งวัน พอพักก็ไปจ้องจอมือถือวนไป จบที่คำว่า “ปวดตา” ตลอด จนเป็นประโยคติดปากของหลายคน มาตามด้วยแสบตา ตาล้า เบลอ มองเห็นไ่ม่ชัด อาการเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่ความเมื่อยล้าชั่วคราว แต่คือสัญญาณที่ดวงตาต้องดูแลด่วน ๆ ด้วยการปรับพฤติกรรมควบคู่กับการเสริมสารอาหารที่ช่วยบำรุงดวงตาต่าง ๆ ตามนี้

กรดอะมิโนทอรีน (Taurine)

เป็นกรดอะมิโนที่พบมากที่สุดในจอประสาทตา มีส่วนช่วยคงสภาพการทำงานของเซลล์รับแสง ลดความเสียหายที่เกิดจากแสงและความเสื่อมตามวัย สำหรับคนที่ต้องใช้สายตาหนัก ไม่ว่าจะจ้องจอ เจอแสงสีฟ้าทั้งวัน หรืออ่านหนังสือนาน ๆ ทอรีนยังช่วยบรรเทาอาการตาล้าและความเมื่อยล้าของดวงตาได้อีกด้วย

ส่วนใหญ่พบใน

เนื้อสัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ เนื้อไก่ ตับวัว ตับหมู 

อาหารทะเล เช่น ปลาทูน่า ปลาคอด หอยแมลงภู่ หอยนางรม

สาหร่ายแดง

นม เช่น นมวัว นมแพะ นมควาย

กรดอะมิโนกลูตามีน (Glutamine)

เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์ต่าง ๆ รวมถึงเซลล์ในจอประสาทตา ทำหน้าที่รับแสงและส่งสัญญาณภาพไปยังสมอง ช่วยลดความเสี่ยงจากความอ่อนล้าของดวงตา และช่วยให้ระบบการมองเห็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนใหญ่พบใน

เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่

ผลิตภัณฑ์จากนมและไข่ เช่น ไข่ เต้าหู้ไ่ข่ นม โยเกิร์ต และชีส

แหล่งโปรตีนจากพืช เช่น เต้าหู้ เทมเป้ ถั่วชนิดต่าง ๆ 

ผัก เช่น ข้าวโพด กะหล่ำปลีม่วง

ธัญพืช เช่น ข้าวขาว ข้าวโอ๊ต เมล็ดเจีย ควินัว ถั่วลูกไก่ ถั่วเลนทิล

กลูตาไธโอน (Glutathione)

เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ประกอบด้วยกรดอมิโนที่สำคัญ 3 ชนิดรวมตัวกันอยู่ คือ ซิสเทอีน (Cystein) ไกลซิน (Glycine) และ กลูตาเมท (Glutamate) พบอยู่ในดวงตา โดยเฉพาะในเลนส์ตาและจอประสาทตา ทำหน้าที่ปกป้องเลนส์แก้วตาจากแสงและมลภาวะ และลดความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจก ถึงแม้ร่างกายสามารถผลิตกลูตาไธโอนได้เอง แต่ก็ลดลงได้ตามอายุที่มากขึ้น

ส่วนใหญ่พบใน

เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อปลา เครื่องในสัตว์

ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บรอกโคลี กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ คะน้า ผักวอเตอร์เครส ผักกาด

ผักตระกูลหัว เช่น กระเทียม หอมแดง หัวหอม

ผลไม้ เช่น อะโวคาโด เกรปฟรุต แตงโม 

  1. อาการปวดหลัง คอ บ่า และไหล่

นี่แหละสัญญาณของออฟฟิศซินโดรม อาการยอดฮิตของคนทำงาน จนอยากเสิร์ชหา “คอ บ่า ไหล่ และหลังใหม่ใกล้ฉัน” เกิดจากการนั่งหรืออยู่ในท่าเดิมต่อเนื่องนาน ๆ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งแบบไม่รู้ตัว อาการเหล่านี้แก้ได้ด้วยการหมั่นขยับตัว ปรับท่านั่งและยืดเส้นง่าย ๆ พร้อมเสริมด้วย BCAAs (กรดอะมิโนโซ่กิ่ง) หรือกลุ่มกรดอะมิโนจำเป็น 3 ชนิด ได้แก่ ลิวซีน ไอโซลิวซีน และวาลีน กรดอะมิโนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการการทำงานของกล้ามเนื้อ ดังนี้

ป้องกันการสลายของกล้ามเนื้อ

นั่งทำงานทั้งวันทำให้กล้ามเนื้อหลังและแกนกลางลำตัวอ่อนแรงได้ ต้องเสริมด้วย BCAAs ช่วยลดการสลายโปรตีนในกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น และฟื้นตัวเร็วหลังจากนั่งท่าเดิมนาน ๆ

บรรเทาอาการปวดเมื่อย

อาการปวดหลังหรือเกร็งกล้ามเนื้อจากการนั่ง หรือยืนทำงานนาน ๆ บรรเทาได้ด้วย BCAAs เพราะมีส่วนช่วยลดระดับแล็กเตต (lactate) และสารกระตุ้นการอักเสบในกล้ามเนื้อ จึงช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อและอาการปวดหลังที่เกิดจากการใช้งานซ้ำ ๆ ได้

เพิ่มการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อ

การเลือกกินอาหารที่มี BCAAs ร่วมกับการยืดเหยียดหรือออกกำลังกายเบา ๆ ช่วยให้กล้ามเนื้อหลังและช่วงลำตัวฟื้นตัวเร็วขึ้น ลดความตึงเครียดสะสมของกล้ามเนื้อจากอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ

ลดความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อ

BCAAs ช่วยปรับสมดุลสารสื่อประสาทที่เกี่ยวกับความเหนื่อยล้า ทำให้กล้ามเนื้อไม่อ่อนแรงง่าย และช่วยให้นั่งทำงานได้นานขึ้นโดยไม่เกิดอาการปวดล้า

ส่วนใหญ่พบใน

เนื้อสัตว์ เช่น อกไก่ เนื้อวัวไม่ติดมัน ปลา (แซลมอน, ทูน่า)

ไข่ทั้งฟอง โดยเฉพาะไข่ขาว

ผลิตภัณฑ์นม เช่น นม โยเกิร์ต ชีส เวย์โปรตีน

พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ถั่วเลนทิล

ธัญพืช เช่น ควินัว ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต

อย่าปล่อยให้อาการแย่ ๆ เหล่านี้ ข้ามปีไปกับเรา เช็กสัญญาณเตือนของร่างกาย แล้วเริ่มดูแล้วกันตั้งแต่วันนี้ด้วยการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับให้ดี เพื่อให้ร่างกายกลับมาสตรอง พร้อมรับปีใหม่อย่างแฮปปี้

เพราะสุขภาพที่ดีเป็นร่างฐานของชีวิต อายิโนะโมะโต๊ะ อยากให้ทุกคนหันมา “กินดี มีสุข” ผ่านโภชนาการและสารอาหารครบถ้วน ครั้งหน้าอายิฯ จะนำเรื่องราวความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับอาหารและสุขภาพมาฝากทุกคนอีก รอติดตามกันไว้ได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก:

https://bit.ly/4ozOPMN 

https://bit.ly/4rOM6Cb 

https://bit.ly/4pO3epL 

https://bit.ly/4rwILHr 

https://bit.ly/4nAHnR1  

https://bit.ly/48ZGaza  

https://bit.ly/47TeyL0  

https://bit.ly/3McimPd      

icon2My Kitchen
พร้อมกิจกรรมพิเศษมากมาย

Lorem Ipsum has been the industry's standard dummy text ever since the 1500s, when an unknown printer took a galley of type and scrambled it

เมนูใหม่ล่าสุดสูตรอาหารเย็นสูตรอาหารสายปาร์ตี้เมนูเจสูตรอาหารที่ใช้เวลารวดเร็วเคล็ดลับเมนู-มื้อประหยัดสูตรอาหารสำหรับเด็กสูตรอาหารมื้อกลางวันเมนูอร่อยสำหรับครอบครัวเมนูง่าย ๆ สไตล์คอนโดอาหารเช้าทำง่าย​​​เมนู Winning Mealsสูตรอาหารมื้อเช้าเมนูสุดฮิตอาหารว่างสำหรับเด็กสูตรเด็ดเชฟดังสูตรอาหารลดโซเดียมสูตรอาหารจาก Cooking Classสูตรอาหารเพื่อสุขภาพสูตรอาหารทานเล่นYumuniverseเมนูตรุษจีนเมนูทั้งหมด

เมนูที่ได้รับความนิยม


บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ

เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณ เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กับผู้ใช้ ท่านตกลงใช้คุกกี้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไป ดูรายละเอียด นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ ข้อตกลงสำหรับการใช้งานเว็บไซต์นี้

ศูนย์การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ท่านสามารถเลือกตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด / ปิดคุกกี้แต่ละประเภทได้ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) ดังนี้ ข้อมูลเพิ่มเติม


การตั้งค่าคุกกี้

คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies)

Always Active

คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ (Analytic Cookies)

คุกกี้เพื่อช่วยในการใช้งาน (Functional Cookies)

คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)