ปัจจุบันเรามักต้องเผชิญกับปัจจัยที่ทำให้ร่างกายสะสมสารพิษโดยไม่รู้ตัว ทั้งมลภาวะทางอากาศ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ร่างกายอ่อนล้าและเสียสมดุลได้ง่าย ใครที่ใช้ร่างกายหนักมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ในสภาพอากาศที่ไม่ดี การกินอาหารสังเคราะห์และอาหารแปรรูป หรือสารเคมีที่ปนเปื้อน ถึงเวลาต้อง ‘ดีท็อกซ์’ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายบ้างแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเสียสมดุล และฟื้นฟูให้ร่างกายกลับมามีสุขภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม

สำหรับวิธีการดีท็อกซ์ที่ปลอดภัย และไม่มีผลข้างเคียงมากที่สุดก็คือการ ‘กินอาหารจากธรรมชาติ’ ที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยสารที่ช่วยดีท็อกซ์ร่างกาย อย่าง ผัก ผลไม้ หรืออาหารที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ และผ่านการปรุงแต่งน้อยที่สุด

ใครที่กำลังต้องการดีท็อกซ์ในแต่ละส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นปอด ตับ ไต และลำไส้ ผ่านการกินอาหารจากธรรมชาติ อายิฯ รวบรวมข้อมูลอาหารช่วยดีท็อกซ์มาให้แล้ว ต้องกินอาหารชนิดใด และแต่ละตัวมีประโยชน์ดีต่อร่างกายอย่างไร ตามไปดูรายละเอียดกันเลย เพื่อค้นพบวิธีดูแลสุขภาพด้วยอาหารจากธรรมชาติที่ทั้งปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อร่างกาย

•  ดีท็อกซ์ปอด

            มลภาวะที่เป็นพิษ และฝุ่นมากมาย เป็นสารก่อภูมิแพ้และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และหากหายใจเอามลภาวะเหล่านี้เข้าร่างกายติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้ ดังนั้นจึงควรป้องกันก่อนโรคต่าง ๆ จะเกิดขึ้น ด้วยการกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบของเซลล์ และการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

อาหารที่ช่วย ‘ดีท็อกซ์ปอด’ ให้หายใจได้ดีขึ้น

- แอปเปิล มีวิตามินซีและเส้นใยสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่าเคอร์ซิทีน ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งปอด และช่วยดูแลสุขภาพปอดอีกด้วย

- มะเขือเทศ มีสารไลโคปีน ช่วยฟื้นฟูปอดให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- ฟักทอง มีเบตา-แคโรทีน มีวิตามินซี ช่วยต่ออต้านโรคมะเร็งต่าง ๆ และช่วยบำรุงรักษาได้ดี

- ถั่ว มีไขมันและมีแมกนีเซียม ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดและปอดแข็งแรง ไม่มีโรคแทรกซ้อน

- น้ำมันมะกอก มีสารโพลีฟีนอล และวิตามินเอ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับปอด

•  ดีท็อกซ์ตับ

            การกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์อาจส่งผลเสียต่อตับได้ หากตับทำงานผิดปกติ ตับอ่อนแอ หรือเกิดไขมันพอกตับ ตับแข็ง ก็จะทำให้ระบบต่าง ๆ ผิดปกติตามไปด้วย ดังนั้นควรบำรุงดูแลตับให้แข็งแรง และใส่ใจต่อการกินอาหารที่บำรุงตับมากขึ้น

อาหารที่ช่วย ‘ดีท็อกซ์ตับ’ ให้กลับมาแข็งแรง

- ผักประเภทหัว เช่น กะหล่ำปลี บรอกโคลี มันเทศ สามารถช่วย กระตุ้นให้ตับผลิตเอนไซม์ต่อต้านสารพิษ และเอนไซม์ช่วยย่อยได้ดี

- บีทรูท มีสารฟลาโวนอยด์ ที่ตับต้องการใช้เพื่อบำรุงและฟื้นฟูตัวเอง

- อะโวคาโด มีกลูตาไธโอน ช่วยล้างพิษที่สะสมในตับ และช่วยลดโอกาสเกิดโลหะหนักสะสมในตับ

- เนื้อปลา มีโอเมก้า 3 ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อของตับให้กลับมาทำงานได้ดีอีกครั้ง

- กระเทียม มีอัลลิซินและซีลีเนียม ช่วยดีท็อกซ์สารพิษที่สะสมในตับ

- ส้ม มีวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการล้างพิษในตับ และลดความเสี่ยงโรคมะเร็งตับ

- ลิ้นจี่ อุดมไปด้วยโปรตีน, ไขมัน, กลูโคส, ซูโครส วิตามินต่าง ๆ และกรดซิตริก ช่วยบำรุงตับและบรรเทาอาการตับอักเสบได้

•  ดีท็อกซ์ไต

           ประเทศไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่มีอัตราการเกิดโรคไตสูงที่สุด ซึ่งอาจมาจากความชอบกินอาหารที่มีโซเดียมสูง และหากไม่ลดการกินอาหารกลุ่มนี้ลง ก็จะทำให้ไตทำงานหนัก หรืออาจเร่งให้เกิดภาวะเสื่อมของไตได้ ดังนั้นจึงควรกินอาหารที่มีส่วนช่วยบำรุงไต

อาหารที่ช่วย ‘ดีท็อกซ์ไต’ ให้ร่างกายรู้สึกดี

- ปลาทะเล มีโอเมก้า 3 ช่วยลดความดันโลหิต และช่วยลดความเสียหายของหลอดเลือดในไต

- กะหล่ำปลี มีโพแทสเซียมต่ำ ไม่เพิ่มภาระให้ไต และมีสรรพคุณช่วยขับสารพิษ

- อกไก่ไร้หนัง มีโปรตีนสูง จึงสามารถช่วยให้ร่างกายนำโปรตีนไปใช้ได้อย่างเพียงพอและส่งผลให้มีของเสียตกค้างในไตน้อยลง เป็นการช่วยลดภาระการทำงานให้ไต

- พริกหวาน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซี ช่วยบำรุงการทำงานของไตให้ดีขึ้น

- หอมหัวใหญ่ มีโพรสตาแกลนดิน ช่วยลดความหนืดของเลือด และช่วยลดความดันโลหิต

- องุ่น มีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดฟลาโวนอยด์ มีวิตามินซีสูง จึงช่วยต้านการอักเสบได้

•  ดีท็อกซ์ลำไส้

            ขับถ่ายยาก ตัวบวม รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว อาจเป็นเพราะอาหารไม่ย่อย ท้องผูก จึงควรดีท็อกซ์ลำไส้เพื่อช่วยให้สารพิษในร่างกายลดลง และทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่ ด้วยการกินอาหารที่มีเส้นใย หรือไฟเบอร์สูง

อาหารที่ช่วย ‘ดีท็อกซ์ลำไส้’ ให้สบายตัวกว่าเดิม

- กล้วย มีกรดอะมิโนทริปโตเฟน วิตามินต่าง ๆ และมีเส้นใยสูงมาก จึงช่วยให้ลำไส้ลื่นไหล ขับถ่ายดี

- อะโวคาโด มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยรักษาอาการอักเสบที่เกิดในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้

- หอมแดง มีพรีไบโอติก ช่วยให้ลำไส้ดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น และช่วยลดอาการท้องผูก

- ถั่ว มีไฟเบอร์สูง ช่วยทำความสะอาดลำไส้ และลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ได้ดี

- ผักกาดขาว มีเส้นใยอาหารสูง ช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระช่วยกระตุ้นลำไส้ และขจัดสารพิษ

- กะเพรา  มีสรรพคุณทางยา ช่วยขับลม จุกเสียดแน่นท้อง ปวดท้อง และช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร

•  ทริกอื่น ๆ ที่ช่วยดีท็อกซ์ร่างกาย

-  ดื่มน้ำให้มากขึ้นในปริมาณที่เหมาะสม

-  กินผักและผลไม้ 5 - 9 ส่วน/วัน โดยเฉพาะผักใบเขียว และผลไม้ตระกูลเบอร์รี

-  กินธัญพืช และถั่วเพิ่มมากขึ้น

-  กินอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ เช่น โยเกิร์ต หรือกิมจิ เพื่อต่อต้านและกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ชนิดอื่น ๆ ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

- กินอาหารเสริมเพิ่มเติมได้ หากร่างกายขาดสารอาหารบางชนิด แล้วไม่สามารถทดแทนได้อย่างเพียงพอจากกินอาหารตามปกติ และควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนกินทุกครั้ง

คุณเองก็สามารถลดอัตราการสะสมของสารพิษในร่างกายได้ เพียงเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ โดยการนำอาหารเหล่านี้ไปทำเมนูที่คุณชอบ

อายิโนะโมะโต๊ะพร้อมผลักดันเต็มที่เพื่อสร้างสังคมที่กินดีมีสุข ผ่านโภชนาการ และสารอาหารต่าง ๆ ครั้งหน้าอายิโนะโมะโต๊ะจะนำความรู้อะไรมาบอกทุกคนอีก รอติดตามกันไว้ได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก: https://bit.ly/3DxHueP