บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
“นัตโตะ” “เต้าหู้เหม็น” และ “กรีกโยเกิร์ต” 3 อาหารตัวท็อปสุดยี้ ที่แค่ได้ยินชื่อก็ส่ายหน้าไม่อยากจะกินแล้ว ด้วยรสชาติของอาหารและกลิ่นที่แรง ทำให้หลายคนเลือกที่จะไม่แตะ แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารเหล่านี้ถือเป็น Superfood สุดพรีเมียมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประโยชน์ เพราะอุดมไปด้วย ‘กรดอะมิโน’ และสารอาหารหลายชนิดเลยทีเดียว จึงเหมาะอย่างมากที่จะกินต้านโรคและเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยอย่างในเวลานี้
มาเปิดใจลองกินสักนิด ใครที่เริ่มสนใจอาหารเหล่านี้ แอบกระซิบว่ามีวิธีที่ทำให้อาหารเหล่านี้อร่อยขึ้นด้วยนะ ไปดูกันเลย
1. นัตโตะ (ถั่วเน่าญี่ปุ่น)
เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ทำจากถั่วเหลืองหมัก มีลักษณะเหนียวหนืด และมีกลิ่นเฉพาะตัว มีประโยชน์ทางโภชนาการมากมาย เพราะอุดมไปด้วยโปรตีน โพรโบไอติก และใยอาหาร
• คุณค่าทางโภชนาการของนัตโตะ 100 กรัม
- แคลอรี 212 กิโลแคลเลอรี
- โปรตีน 19 กรัม
- ไขมัน 11 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 13 กรัม
- ไฟเบอร์ 5 กรัม
• ประโยชน์และสรรพคุณของนัตโตะ
- อุดมไปด้วยกรดอะมิโนจำเป็นทั้ง 9 ชนิด และมีในปริมาณสูงเมื่อเทียบกับถั่วชนิดอื่น มีส่วนช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อของร่างกาย จึงช่วยทำให้ร่างกายฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้ไวขึ้น
- อุดมไปด้วยวิตามินซี ธาตุเหล็ก สังกะสี ซีลีเนียม และทองแดง ซึ่งทั้งหมดนี้ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต เพิ่มระดับระดับคอเลสเตอรอลที่ดี
- ช่วยให้หลอดเลือดแดงอยู่ในสภาพที่ดี จึงสามารถช่วยลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้
- อุดมด้วยโพรไบโอติกที่มีส่วนช่วยให้ระบบทางเดินอาหารมีสุขภาพดี
• วิธีที่ทำให้มือใหม่กินนัตโตะได้ง่ายขึ้น
- Corn Mayo Natto
วิธีทำ
▹ นำเมล็ดข้าวโพดต้ม มายองเนส และซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนชา มาคนให้เข้ากัน
▹ ราดลงบนนัตโตะ เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ จะกินเดี่ยว ๆ ก็ดี หรือจะกินกับข้าวร้อน ๆ ก็เริ่ด
- Spicy avocado natto
วิธีทำ
▹ นำอะโวคาโด 1/4 ลูก มาบดให้ละเอียด จากนั้นบีบน้ำเลมอน 1/8 ลูก ลงไป
▹ โรยเกลือเล็กน้อย แล้วผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
▹ ราดบนบนนัตโตะ ปิดท้ายด้วยการเหยาะซอสพริกเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
- Miso butter natto
วิธีทำ
▹ นำสาหร่ายมาฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใส่ลงในนัตโตะ
▹ ใส่เนย 10 กรัม จากนั้นเหยาะมิโซะเล็กน้อย และซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนชา ลงไป
▹ คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน และนำไปกินกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลย
• ข้อควรระวังของการกินนัตโตะ
- มีวิตามิน K1 ซึ่งมีบทบาทในการทำให้เลือดแข็ง ดังนั้นผู้ที่กินยาต้านการแข็งตัวของเลือดอยู่ จึงควรขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อน
- มีสารกอยโตรเจน (Goitrogen) ที่อาจรบกวนการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้ คนที่มีภาวะการทำงานของต่อมไทรอยด์บกพร่องควรบริโภคแต่น้อย
2. เต้าหู้เหม็น
เต้าหู้เหม็นมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย เป็นแหล่งให้โปรตีนที่ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ ซึ่งโปรตีนนี้ได้มาจากถั่วเหลืองที่แปรรูปเป็นเต้าหู้ อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย
• คุณค่าทางโภชนาการของเต้าหู้เหม็น 100 กรัม
- แคลอรี 145 กิโลแคลเลอรี
- โปรตีน 20 กรัม
- ไขมัน 9 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 3 กรัม
- ไฟเบอร์ 3 กรัม
• ประโยชน์และสรรพคุณของเต้าหู้เหม็น
- มีกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งหมด 9 ชนิด ซึ่งร่ายกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น โดยทำหน้าที่ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
- มีสารไอโซฟลาโวน (Isoflavone) ที่มาจากถั่วเหลือง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดีลงได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย
- ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก และลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน
- ช่วยเสริมการทำงานของไต จึงมีประโยชน์มากสำหรับคนที่ได้รับการฟอกไต หรือการปลูกถ่ายไต
- ช่วยในเรื่องของสมองและความจำ เสริมการทำงานของเซลล์ประสาทให้ดีมากขึ้น
• วิธีที่ทำให้มือใหม่กินเต้าหู้เหม็นได้ง่ายขึ้น
- เต้าหู้เหม็นทอดและน้ำจิ้มรสเด็ด
นำไปทอดให้กรอบ กินคู่กับน้ำจิ้ม โรยหน้าด้วยผักชี และเสิร์ฟเคียงกับผักดอง เพื่อช่วยลดกลิ่นของเต้าหู้เหม็น
- เต้าหู้เหม็นปิ้งย่างสไตล์บาร์บีคิว
นำเต้าหู้เหม็นไปเสียบไม้แล้วย่าง เพิ่มรสชาติด้วยการทาซอสที่ชอบระหว่างย่าง ให้ฟีลเหมือนกินบาร์บีคิว
• ข้อควรระวังของการกินเต้าหู้เหม็น
ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะหากกินมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารเกินความต้องการ แนะนำให้กินประมาณ 100 กรัมต่อวัน
3. กรีกโยเกิร์ต
กรีกโยเกิร์ต คือ โยเกิร์ตที่ผ่านกระบวนการคั้นน้ำออกจนมีเนื้อที่เหนียวข้น รสชาติติดเปรี้ยวนิด ๆ มีโปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตธรรมดาถึง 2 เท่า สามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ดีต่อลำไส้ และสุขภาพโดยรวม
• คุณค่าทางโภชนาการของกรีกโยเกิร์ต 100 กรัม
- แคลอรี 59 กิโลแคลเลอรี
- โปรตีน 10.2 กรัม
- น้ำตาล 3.2 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 3.6 กรัม
- ไขมัน ประกอบไปด้วย ไขมันอิ่มตัว 0.1 กรัม และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 0.1 กรัม
• ประโยชน์และสรรพคุณของกรีกโยเกิร์ต
- มีกรดอะมิโนจำเป็นอย่าง ‘ทริปโตเฟน’ ช่วยให้หลับสบายมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้สามารถควบคุมอารมณ์ให้ดีขึ้นได้ ช่วยลดความเครียด ลดไมเกรน และลดอาการซึมเศร้าได้ดี
- อุดมไปด้วย วิตามินบี 5 ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงเส้นผมและหนังศีรษะได้ดี ช่วยทำให้สุขภาพผม สุขภาพผิว และเล็บแข็งแรง
- เป็น Superfood ที่มีแคลเลอรีต่ำ โปรตีนสูง กินแล้วอิ่มนาน ช่วยเพิ่มฮอร์โมนที่ระงับความอยากอาหารได้
- อุดมไปด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส มีส่วนช่วยในการเพิ่มมวลกระดูก และช่วยทำให้ฟันให้แข็งแรงขึ้น
- มีจุลินทรีย์ดี ช่วยกระตุ้นระบบการทำงานของลำไส้ ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคมาจับที่เยื่อบุลำไส้ และมีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันอีกด้วย
• วิธีที่ทำให้มือใหม่กินกรีกโยเกิร์ตได้ง่ายขึ้น
- กรีกโยเกิร์ตสมูทตี้
ปั่นกรีกโยเกิร์ตกับผลไม้ที่ชื่นชอบ เติมนมอัลมอนด์และน้ำผึ้งเล็กน้อย เพื่อให้ได้สมูทตี้ครีมที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
- ใช้ทาแทนเนยหรือแยม
เอากรีกโยเกิร์ตมากินคู่กับขนมปัง ไว้กินตอนหิว ๆ ช่วยให้อิ่มท้องนานขึ้นได้
- กินคู่กับผลไม้ต่าง ๆ
มิกซ์กับผลไม้ที่มีรสหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่น เช่น สตรอว์เบอร์รี กล้วย ส้ม และบีบน้ำผึ้งราดลงไป เพื่อตัดรสชาติเปรี้ยวของโยเกิร์ต
- กินคู่กับกราโนลา
นำกรีกโยเกิร์ตและกราโนลามากินคู่กัน สำหรับกินเป็นมื้อเช้า หรือตอนที่ท้องว่าง ถือเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนเลยทีเดียว
• ข้อควรระวังของการกินกรีกโยเกิร์ต
สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้แลคโตสอย่างรุนแรง ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะบางครั้งในกรีกโยเกิร์ตอาจมีแลคโตสหลงเหลืออยู่ แม้ว่ากระบวนการทำกรีกโยเกิร์ตจะมีการกรองแลคโตสออกไปแล้ว
เป็นยังไงกันบ้างกับ 3 เมนูที่อายิโนะโมะโต๊ะนำมาแนะนำ บอกแล้วว่าได้โภชนาการ คุณค่าทางอาหาร และกรดอะมิโนเน้น ๆ เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ของอายิโนะโมะโต๊ะ ที่พร้อมมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำในการสร้างสังคม “กินดี มีสุข” ให้กับทุก ๆ คน
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://bit.ly/4cKCQGl