บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
ในยุคที่ความเร่งรีบและความเครียดกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เราทุกคนต่างต้องการหาวิธีในการดูแลสุขภาพ เพื่อให้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข การดูแลร่างกายด้วยอาหารที่มีประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง วันนี้อายิโนะโมะโต๊ะจึงขอมาแนะนำ 5 อาหารอายุยืน
ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นอาหารที่มีการศึกษามาแล้วว่า ดีต่อสุขภาพ โดยในกลุ่มที่มีการรับประทานเป็นประจำมีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับประทานเหล่านี้ รวมถึงยังเป็นอาหารที่คนที่มีอายุยืนรับประทานกันเป็นประจำอีกด้วย ทุกคนสามารถนำไปรับประทานตามกันได้เลย
• แครนเบอร์รี (Cranberry)
เป็นผลไม้กลุ่มเบอร์รีชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นทรงกลม แข็ง เล็ก มีสีแดง และรสชาติหวานอมเปรี้ยว อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินซี เควอซิทิน (Quercetin) และพีโอนิดิน (Peonidin)
• ประโยชน์ของแครนเบอร์รี
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
แครนเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินซีสูง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวม สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย และช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บที่มากับอากาศได้ดี
- ต้านโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
แครนเบอร์รีสามารถช่วยลดอัตราการติดเชื้อได้สูงถึง 50% และช่วยป้องกันการยึดเกาะของแบคทีเรียกับเนื้อเยื่อในร่างกาย จึงมักจะนำไปใช้เพื่อรักษาอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- ป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่
แครนเบอร์รีมีส่วนช่วยป้องกันมะเร็ง และต้านการกลายพันธุ์ของเซลล์ในร่างกายได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ มะเร็งรังไข่ และมะเร็งอื่น ๆ ได้อีกมากมาย
• ตระกูลกะหล่ำ (Cruciferous Vegetable)
พืชกลุ่มนี้ ประกอบไปด้วย กะหล่ำดาว กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี กวางตุ้ง คะน้า ผักกาดขาวปลี ผักกาดเขียวปลี ผักกาดหัว และบรอคโคลี อุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์มากมายหลายชนิด เช่น วิตามินซี และวิตามินอี
• ประโยชน์ของตระกูลกะหล่ำ
- ยับยั้งเอ็นไซม์ที่กระตุ้นสารก่อมะเร็ง
พืชตระกูลกะหล่ำมีสารกลูโคไซโนเลต (Glucosinolate) โดยผ่านกระบวนการย่อย จนสารอินโดล (Indole) และไอโซไทโอไซยาเนต (Isothiocyanate) ทำให้สามารถช่วยต้านโรคมะเร็งในหลาย ๆ อวัยวะได้ เช่น กระเพาะปัสสาวะ เต้านม ลำไส้ ตับ ปอด และช่องท้อง
- ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
พืชตระกูลกะหล่ำมีสารเอส-เมทิลเมไธโอนีล (S-Methylmethionine) หรือวิตามินยู ที่สามารถช่วยลดการอักเสบ และสมานแผลในกระเพาะอาหาร อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้องจากแผลในกระเพาะให้ดีขึ้นได้
- ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
พืชตระกูลกะหล่ำมีไฟเบอร์สูงมาก จึงช่วยกระตุ้นลำไส้ ทำให้กากอาหารนุ่มลง แก้อาการท้องผูกได้ดี มีเส้นใยอาหารสูง อีกทั้งยังช่วยทำให้รู้สึกอิ่มนาน
• กระเทียม (Garlic)
เป็นพืชสมุนไพรไทย ที่คนไทยนิยมนำมาใช้ทำอาหาร เนื่องจากช่วยเพิ่มรสชาติให้เมนูอาหารมีความเข้มข้นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีประโยชน์มากมาย นอกจากนี้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แนะนำให้กินกระเทียมวันละ 7-12 กลีบ หรือไม่เกินวันละ 1 หัว (ขนาดเล็ก)
• ประโยชน์ของกระเทียม
- ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
กระเทียมมีสารอัลลิซิน (Allicin) มีคุณสมบัติลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด และช่วยสลายลิ่มเลือดได้ ช่วยลดภาวะเลือดแข็งตัว ซึ่งเป็นสาเหตุของเส้นเลือดอุดตัน และภาวะหัวใจวาย
- ป้องกันและรักษาโรคหวัด
ในกระเทียมมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย แต่หากเป็นหวัดสามารถฝานกระเทียมแล้วแช่ในน้ำร้อน จากนั้นนำมากรอง และนำน้ำมาดื่ม จะทำให้หวัดหายเร็วขึ้น
- ช่วยลดระดับไขมันในเลือด
การกินกระเทียมเป็นประจำจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และระดับไขมันในเลือด ซึ่งมีผลช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ
• น้ำมันมะกอก (Olive Oil)
เป็นน้ำมันธรรมชาติ ที่สกัดจากผลของต้นมะกอก ซึ่งสารจากทางธรรมชาติในน้ำมันมะกอกนั้น มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายมาก ๆ และยังช่วยลดระดับไขมันเลวในร่างกายได้อีกด้วย
• ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก
- ต้านภาวะความเสื่อมถอยของสมอง
น้ำมันมะกอกมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงสามารถช่วยป้องกันความเสื่อมถอยของสมอง อันเนื่องมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นได้
- ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
น้ำมันมะกอกมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และกรดไขมันโอเมก้า 3 จึงสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูกได้
- ควบคุมคอเลสเตอรอล
น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วย ไขมันชนิดไม่อิ่มตัวถึง 77% โดยเฉพาะกรดโอเลอิก (Oleic acid) หรือไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ดี
• ถั่วและเมล็ดพืช (Nuts and Seeds)
ถั่วและเมล็ดพืชเป็นกลุ่มที่ให้โปรตีนสูง ซึ่งมีบทบาทในการสร้างกล้ามเนื้อและสร้างโครงสร้างของเส้นผม ผิวหนัง และกระดูกให้แข็งแรง อีกทั้งถั่วและเมล็ดพืชยังถูกจัดว่าเป็นอาหารที่หาทานได้ง่าย และมีราคาหลากหลาย เหมาะสำหรับเป็นทั้งอาหารหลัก และอาหารว่าง
• ประโยชน์ของถั่วและเมล็ดพืช
- ป้องกันโรคกระดูกพรุน
ถั่วและเมล็ดพืชเป็นแหล่งรวมของ แมงกานีส วิตามินอี ไบโอติน สังกะสี และไบโอฟลาวิน ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนช่วยในการเสริมสร้าง และเพิ่มมวลกระดูก เหมาะมากสำหรับผู้ที่มีปัญหากระดูกพรุน
- ช่วยลดความดันโลหิต
ถั่วชนิดต่าง ๆ จะมีแมกนีเซียม ซึ่งมีบทบาทในการช่วยยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบที่ผนังหลอดเลือด และช่วยในการขยายตัวของหลอดเลือด จึงช่วยในการลดความดันโลหิตได้
- ชะลอความแก่ชรา
เนื่องจากถั่วและเมล็ดพืชต่าง ๆ อุดมไปด้วยไขมันอิ่มตัว และสารอาหารอีกมากมาย ทั้งแร่ธาตุและวิตามินอี ที่สามารถช่วยต้านอนุมูลอิสระได้สูง ทำให้ให้ผิวพรรณเต่งตึง และดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
และนี่คืออาหารทั้งหมดที่สามารถช่วยให้ทุกคนอายุยืนได้มากขึ้น ไม่ว่าวัยไหน หรืออายุเท่าไหร่ก็สามารถทานได้ นอกจากนี้ควรทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อจะได้อยู่กับครอบครัว และคนที่รักไปนาน ๆ
ครั้งต่อไปอายิโนะโมะโต๊ะจะแนะนำสิ่งดี ๆ มาให้ทุกคนอีกแน่นอน เพราะเราต้องการส่งต่อสุขภาพดีให้ทุกคนผ่านอาหารและโภชนาการต่าง ๆ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ตามสโลแกนขององค์กร ‘กินดี มีสุข’ กินดีด้วยโภชนาการที่ดีขึ้น มีสุขด้วยสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับผู้คน ชุมชน และสังคม อย่างยั่งยืน
ขอบคุณข้อมูลจาก: