เมนูที่ได้รับความนิยม
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
สูตรอาหาร
เมนูที่ได้รับความนิยม
เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่กับหน้าจอแทบตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำงาน ประชุมออนไลน์ หรือเล่นโซเชียลมีเดีย ทำให้ดวงตาทำงานหนัก จนเกิดอาการตาล้า แสบตา หรือมองภาพไม่ชัด โดยเฉพาะในคนที่ไม่ค่อยได้พักสายตา ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากความเหนื่อยเพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกว่าดวงตาอาจกำลังขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการฟื้นฟู
ถ้าคุณเป็นอีกคนที่ต้องใช้สายตาหนักทุกวัน ถึงเวลามาทำความรู้จักกับ ‘กรดอะมิโน’ ที่จะช่วยเปลี่ยนจาก “ตาล้า” ให้กลายเป็น “ตาใส” มาดูกันว่ามีอาหารอะไรที่มีกรดอะมิโนเหล่านี้ เพื่อจะได้กินเพื่อฟื้นฟูดวงตาของเรา

1. กรดอะมิโนทอรีน (Taurine)
คือ กรดอะมิโนกึ่งจำเป็น (Conditionally essential amino acids) ที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้ พบมากสุดในสมอง, หัวใจ, กล้ามเนื้อ และเลือด แต่บางครั้งร่างกายอาจผลิตได้ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงที่มีความเครียด ใช้พลังงานสูง หรือพักผ่อนน้อย ทำให้ต้องกินอาหารเพื่อเสริมกรดอะมิโนชนิดนี้
ประโยชน์ของ “กรดอะมิโนทอรีน”
- ช่วยให้จอประสาทตาแข็งแรง
กรดอะมิโนทอรีนที่อยู่ในจอประสาทตา (retina) และสมอง จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เซลล์ประสาทตาในส่วนที่รับแสงด้านนอกของเรตินา จึงช่วยป้องกันไม่ให้จอประสาทตาเสื่อมจากแสงสว่าง หรือสารเคมีได้
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
กรดอะมิโนทอรีนมีคุณสมบัติช่วยลดการดูดซึมไขมันในตับ ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลและไขมันในตับลดน้อยลง จึงสามารถช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ดี
- ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
กรดอะมิโนทอรีนจะไปช่วยควบคุมปริมาณแคลเซียมในหัวใจให้สมดุล พร้อมกับช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต จังหวะการเต้นของหัวใจ การสูบฉีดเลือด รวมทั้งความเข้มข้นของเกล็ดเลือดให้เป็นปกติ
- ช่วยในการรักษาโรควิตกกังวลและโรคลมชัก
กรดอะมิโนทอรีนทำหน้าที่เป็นตัวนำกระแสประสาทในสมอง มีฤทธิ์บรรเทาความเครียด หรือช่วยระงับประสาทในสภาวะที่สมองตื่นตัวมากกว่าปกติได้
อาหารที่มี “กรดอะมิโนทอรีน”
- เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว, เนื้อหมู, เนื้อแกะ, เนื้อไก่ และปลาทูน่า
- เครื่องในสัตว์ เช่น ตับหมู และตับวัว
- อาหารทะเล เช่น หอยแมลงภู่ หอยนางรม รวมไปถึงสาหร่ายทะเลโดยเฉพาะสาหร่ายแดง
- ผลิตภัณฑ์จากนม และไข่
คำแนะนำ
- รับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของวิตามินบี 6 โดยวิตามินบี 6 ถือเป็นวิตามินที่สำคัญในกระบวนการสังเคราะห์กรดอะมิโนทอรีนในร่างกาย ดังนั้นหากร่างกายขาดวิตามินบี 6 ก็จะทำให้ขาดกรดอะมิโนทอรีนด้วยเช่นกัน
- การดื่มสุรา หรือแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไป ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถใช้กรดอะมิโนทอรีนได้ดีเท่าที่ควร

2. กรดอะมิโนกลูตามีน (Glutamine)
คือ กรดอะมิโนไม่จำเป็น (Non-essential amino acids) ที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้ พบมากในเลือดและกล้ามเนื้อ แต่บางครั้งร่างกายอาจผลิตได้ไม่เพียงพอ เช่น ในช่วงที่ป่วยหนัก บาดเจ็บรุนแรง ผ่าตัด หรือเครียดจัด ทำให้ต้องกินอาหารเพื่อเสริมกรดอะมิโนชนิดนี้
ประโยชน์ของ “กรดอะมิโนกลูตามีน”
- ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทตา
กรดอะมิโนกลูตามีนเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์ "กลูตาเมต" เพื่อส่งสัญญาณภาพไปจอประสาทตา และช่วยกำจัดพิษของกลูตาเมตที่มากเกินไป ดังนั้นกรดอะมิโนกลูตามีนจึงจำเป็นมากในการช่วยรักษาสมดุลของสารสื่อประสาท และช่วยปกป้องเซลล์จอประสาทตา
- ช่วยซ่อมแซมลำไส้ให้แข็งแรง
กรดอะมิโนกลูตามีนช่วยให้เซลล์ในผนังลำไส้แข็งแรง และยึดเกาะกันได้ดี ทำให้ช่วยป้องกันสารพิษ แบคทีเรียที่ไม่ดี หรืออาหารที่ไม่ย่อย เล็ดลอดผ่านผนังลำไส้เข้าไปในกระแสเลือดได้ยากมากยิ่งขึ้น
- ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย
กรดอะมิโนกลูตามีนช่วยสร้างเม็ดเลือดขาว เมื่อร่างกายติดเชื้อ บาดเจ็บรุนแรง หรือหลังการผ่าตัด จึงต้องการใช้กลูตามีนปริมาณมาก เพื่อไปต่อสู้กับเชื้อโรคหรือซ่อมแซมบาดแผล
- ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
กรดอะมิโนกลูตามีนจะช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และลดการสลายตัวของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการปวดเมื่อยและอ่อนล้าหลังการออกกำลังกายได้
อาหารที่มี “กรดอะมิโนกลูตามีน”
- อาหารทะเล เช่น ปลา หอยแมลงภู่ กุ้ง และปู
- ถั่วเปลือกแข็งต่าง ๆ เช่น อัลมอนด์ เฮเซลนัท พิสตาชิโอ ถั่วลิสง และวอลนัท
- ผักใบเขียว เช่น ผักโขม กระหล่ำปลี คะน้า ผักกาดหอม และผักชี
- ผลิตภัณฑ์จากนม และไข่
คำแนะนำ
- การดื่มแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่องในปริมาณมาก จะทำให้เป็น 'โรคตับแข็ง' เมื่อตับไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ก็จะส่งผลให้ร่างกายสังเคราะห์กรดอะมิโนกลูตามีน เพื่อมาจัดการของเสีย เช่น แอมโมเนีย ในเลือดได้น้อยลง

3. กรดอะมิโนไกลซีน (Glycine) ซิสเทอีน (Cysteine) และกรดกลูตามิก (Glutamic acid)
คือ กรดอะมิโน 3 ชนิด ที่เป็นส่วนประกอบหลักในการสร้าง ‘กลูตาไธโอน’ (Glutathione) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในร่างกาย ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย หากร่างกายมีกลูตาไธโอนที่เพียงพอ ก็จะช่วยชะลอการเสื่อมของเลนส์ตา หรือชะลอการเกิดต้อกระจกได้
ประโยชน์ของ “กรดอะมิโนไกลซีน ซิสเทอีน และกรดกลูตามิก”
- ป้องกันและชะลอการเกิดต้อกระจก
เมื่ออายุมากขึ้น หรือเจอกับแสงแดด และจ้องจอนาน ๆ กลูตาไธโอนในเลนส์ตาจะลดลง ทำให้โปรตีนในเลนส์ตาถูกทำลายและจับตัวกันจนขุ่นมัว กลายเป็น "ต้อกระจก" ดังนั้นการเสริมกรดอะมิโนไกลซีน ซิสเทอีน และกรดกลูตามิก เพื่อให้ร่างกายมีกลูตาไธโอนที่เพียงพอ ก็จะช่วยชะลอการเสื่อมของเลนส์ตา หรือชะลอการเกิดต้อกระจกได้
- ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ
กรดอะมิโนไกลซีนช่วยทำให้สมองสงบลง ลดอุณหภูมิแกนกลางของร่างกาย และช่วยให้อุณหภูมิของมือเท้าสูงขึ้น ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและหลับได้ดีขึ้น
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผมและเล็บ
กรดอะมิโนซิสเทอีนช่วยเสริมสร้างโปรตีนเคราติน ทำให้เส้นผมและเล็บแข็งแรงมากขึ้น ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม และป้องกันเล็บแห้ง เปราะ หรือฉีกขาดง่าย
- ช่วยสร้างสมดุลในสมอง
กรดกลูตามิกทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทแบบกระตุ้น ที่ช่วยในการเรียนรู้และจดจำ และเป็นสารตั้งต้นในการสร้างสารสื่อประสาทอื่น ๆ เช่น GABA ซึ่งช่วยให้ผ่อนคลายและสงบ
อาหารที่มี “กรดอะมิโนไกลซีน, ซิสเทอีน และกรดกลูตามิก”
- เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่, เนื้อวัว, เนื้อหมู, ปลาแซลมอน และปลาทูน่า
- เครื่องในสัตว์ เช่น ตับหมู และตับวัว
- อาหารทะเล เช่น กุ้ง และหอยต่าง ๆ
- ผัก เช่น ผักโขม, บรอกโคลี และมะเขือเทศ
- ผลิตภัณฑ์จากนม และไข่

อย่าปล่อยให้ตาล้าเป็นอุปสรรคต่อวันดี ๆ ของคุณ มาเติมพลังให้ดวงตาและร่างกายด้วยอาหารที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโนไปกับอายิโนะโมะโต๊ะ เริ่มต้น “กินดี มีสุข” ไปด้วยกัน เพื่อร่างกายที่สดใส และดวงตาให้พร้อมสู้ในทุกวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก:
https://bit.ly/4oNKIx3
https://bit.ly/4oQCuV2
https://bit.ly/3Lk2VEc
https://bit.ly/47Mri54
https://bit.ly/48ZGaza
https://bit.ly/3WH0AFH
https://bit.ly/43Ljdw4
https://bit.ly/43nbW5t
























































