สูตรอาหาร
เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ
พลังงาน
(กิโลแคลอรี่)
139
โปรตีน
(กรัม)
20
คาร์โบไฮเดรต
(กิโลแคลอรี่)
8
ไขมัน
(กรัม)
3
โซเดียม
(มิลลิกรัม)
1118
ส่วนประกอบ
ปลาทูย่าง
75 กรัม
หอมแดงเผา
12.5 กรัม
กระเทียมเผา
12.5 กรัม
พริกเหลืองเผา
6.25 กรัม
พริกขี้หนูสดสวนคั่ว
2.5 กรัม
น้ำปลา ลดโซเดียม
6.25 กรัม
น้ำมะนาว
9.5 กรัม
0.25 กรัม
วิธีทำ
1. เตรียมปลาทู และย่างด้วยไฟอ่อนจนมีสีเหลืองทองสวย
การทำสูตรน้ำพริกปลาป่นให้อร่อย เริ่มต้นที่การเลือกปลาทูคุณภาพดี ปลาทูสดจะมีลักษณะเด่น คือ ตาใสไม่ขุ่น เหงือกสีแดงสด เนื้อแน่นเด้ง ไม่มีกลิ่นคาว ผิวเป็นมันวาว ไม่มีเมือก หากเป็นปลาทูแช่เย็น ควรดูวันที่ผลิต และเลือกที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์สะอาด ไม่มีน้ำแข็งเกาะมา
ขั้นตอนการย่างปลาทูต้องพิถีพิถัน เริ่มจากการขอดเกล็ด และขูดไส้ให้สะอาด ล้างน้ำเย็นหลาย ๆ รอบ ซับให้แห้ง หมักเกลือบาง ๆ พักไว้ 10-15 นาที ระหว่างรอให้เตรียมเตาถ่านให้ไฟอ่อนสม่ำเสมอ วางตะแกรงสูงจากถ่านประมาณ 6-8 นิ้ว ทาน้ำมันบาง ๆ ที่ตะแกรงกันติด วางปลาเรียงห่างกันพอประมาณ ย่างด้วยไฟอ่อน ๆ จนสุกหอม ระหว่างย่างห้ามกลับปลาบ่อย ควรรอให้ด้านแรกสุกประมาณ 70% จึงกลับ จะช่วยให้เนื้อไม่แตก รอให้เย็นพอประมาณ จึงแกะเฉพาะส่วนเนื้อออกจากก้าง ระวังไม่ให้มีก้างปนเปื้อน
สำหรับปริมาณที่เหมาะสม ใช้ปลาทูย่าง 2-3 ตัว (ประมาณ 200-250 กรัม) จะได้เนื้อพอดีสำหรับทำน้ำพริกปลาป่น 1 ถ้วย หากต้องการทำปริมาณมาก ไม่ควรทำครั้งละเกิน 500 กรัม เพราะจะตำยาก ได้เนื้อสัมผัสไม่ดี
หากใช้ปลาทูแช่เย็น ควรนำมาอุ่นในไมโครเวฟประมาณ 30 วินาที หรือนึ่งเบา ๆ 2-3 นาที จะช่วยให้แกะเนื้อง่ายขึ้น แต่อย่าอุ่นนานเกินไป เพราะเนื้อจะแห้งเคล็ดลับ: ควรเลือกปลาทูที่ย่างใหม่ ๆ จะได้กลิ่นหอม และรสชาติที่ดีกว่า หากเป็นปลาทูแช่เย็น ควรอุ่นเล็กน้อยก่อนแกะเนื้อ การย่างปลาควรใช้เตาถ่าน จะได้กลิ่นหอมที่ดีกว่าการใช้เตาแก๊ส
2. เตรียม และเผาเครื่องสมุนไพรแต่ละชนิดให้หอม
การเลือกและเผาเครื่องสมุนไพรสำหรับน้ำพริกปลาป่นเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องใส่ใจเพื่อให้ได้กลิ่นหอมและรสชาติที่ดี ประกอบด้วย
หอมแดง: เลือกหัวขนาดกลาง เนื้อแน่น (12.5 กรัม)
กระเทียม: ใช้กลีบใหญ่ เนื้อแน่น (12.5 กรัม)
พริกเหลือง: เลือกผลสีสด (6.25 กรัม) หากต้องการความเผ็ดมากขึ้น เพิ่มได้เป็น 5-6 เม็ด หากไม่มีพริกเหลืองสามารถใช้พริกชี้ฟ้าแดงแทน
พริกขี้หนูแห้ง: ใช้พริกขี้หนูสวนที่มีสีแดงสด 2.5 กรัม สำหรับเผ็ดระดับกลาง หรือเพิ่มเป็น 15-20 เม็ดสำหรับความเผ็ดจัด
ขั้นตอนการเผาต้องระวัง:
หอมแดง: เผาด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 7-10 นาที จนเปลือกนอกเป็นสีน้ำตาล
กระเทียม: เผาประมาณ 5-7 นาที ระวังไม่ให้ไหม้
พริกเหลือง: เผาเร็วที่สุด ประมาณ 3-5 นาที พอผิวพอง
พริกขี้หนูแห้ง: คั่วในกระทะไฟอ่อน 2-3 นาที
หลังเผาให้พักให้เย็นก่อนแกะเปลือกหรือขั้ว เพื่อไม่ให้เครื่องสมุนไพรเสียหายเคล็ดลับ: การเผา และคั่วเครื่องสมุนไพรให้หอมเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้น้ำพริกปลามีกลิ่นหอมน่ารับประทาน ควรเผาทีละชนิด เพราะแต่ละอย่างใช้เวลาไม่เท่ากัน
3. ตำเครื่องสมุนไพร สร้างเนื้อสัมผัสให้น้ำพริกปลาป่น
การตำเครื่องต้องใช้ครกหินหรือครกดินที่สะอาด แห้งสนิท เริ่มจากการตำเครื่องที่เผาไว้ทีละอย่าง เริ่มจากกระเทียมเผาก่อน เพราะเนื้อนุ่มที่สุด ตามด้วยหอมแดงเผา และพริกเหลืองเผาตามลำดับ ตำให้พอแหลก ไม่ต้องละเอียดมาก จากนั้นใส่พริกขี้หนูคั่ว ตำให้แตกพอประมาณ ระวังไม่ให้ฟุ้งกระจาย หากต้องการให้เผ็ดน้อยลง ให้แกะเมล็ดพริกออกก่อนคั่ว
เคล็ดลับ: การตำเครื่องแต่ละอย่างให้มีความหยาบ-ละเอียดต่างกัน จะทำให้น้ำพริกปลาป่นของเรามีเนื้อสัมผัสที่น่าสนใจมากขึ้น
4. ตำเนื้อปลา โขลกเบา ๆ ให้เข้ากับเครื่องสมุนไพร
การตำเนื้อปลาเป็นขั้นตอนสำคัญของการทำสูตรน้ำพริกปลาป่น นำเนื้อปลาทูที่แกะไว้ใส่ลงในครกที่มีเครื่องสมุนไพรที่ตำไว้ โขลกเบา ๆ ให้เข้ากัน ควรใช้จังหวะการตำที่นุ่มนวล ไม่ออกแรงมากเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อปลาละเอียดเกินไป ควรให้มีเนื้อสัมผัสของปลาที่พอดี สังเกตว่าจะเห็นเนื้อปลาเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไม่เละจนเกินไป
เคล็ดลับ: การคงเนื้อสัมผัสของปลาไว้บ้าง จะทำให้น้ำพริกมีรสชาติ และเนื้อสัมผัสที่น่ารับประทานมากขึ้น หากตำจนละเอียดเกินไปจะทำให้น้ำพริกเละ และเสียรสชาติ
5. ปรุงรสน้ำพริกปลาให้กลมกล่อมด้วย อายิโนะโมะโต๊ะ
การปรุงรสเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความพิถีพิถันมากที่สุด เริ่มจากการใส่น้ำปลาดี ๆ ประมาณ 2 - 3 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยน้ำมะนาวสด 2 - 3 ช้อนโต๊ะ และเคล็ดลับพิเศษ คือ การเพิ่มอายิโนะโมะโต๊ะ 1/4 ช้อนชา ซึ่งจะช่วยเพิ่มความกลมกล่อม และดึงรสชาติของเครื่องปรุงทั้งหมดออกมาได้อย่างลงตัว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรส และปรับให้ได้รสชาติที่สมดุล เปรี้ยวนำ เค็มตาม มีความเผ็ดร้อนกำลังดี
เคล็ดลับ : อายิโนะโมะโต๊ะจะช่วยเพิ่มรสอูมามิ และความกลมกล่อม ทำให้น้ำพริกปลามีรสชาติที่โดดเด่นมากขึ้น6. จัดเสิร์ฟน้ำพริกปลาป่น พร้อมผักสด
จัดเสิร์ฟน้ำพริกปลาป่นในถ้วยหรือชามเล็กที่สะอาด ตกแต่งด้วยพริกขี้หนูสดหั่นแฉลบ ใบมะกรูดซอยฝอย เสิร์ฟพร้อมผักสดตามชอบ เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาวต้ม มะเขือพวง ผักกูด หรือผักพื้นบ้านต่าง ๆ หากต้องการเพิ่มความสวยงาม สามารถจัดผักเป็นชั้น ๆ ในจานใบใหญ่ วางน้ำพริกไว้ตรงกลาง
เคล็ดลับ: เก็บน้ำพริกปลาป่นในภาชนะแก้วหรือกระเบื้องมีฝาปิดสนิท แช่เย็น สามารถเก็บได้ 3-4 วัน แต่รสชาติที่ดีที่สุดคือรับประทานในวันที่ทำ
เมนูที่น่าสนใจ
ดูสูตรเมนูอูมามิอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ
เมนูที่น่าสนใจ
ดูสูตรเมนูอูมามิอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ