เมนูที่ได้รับความนิยม
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ

สูตรอาหาร
เมนูที่ได้รับความนิยม

เรื่องราวกินดีมีสุข
บทความอูมามิ อื่นๆ ที่่น่าสนใจ


พลังงาน
(กิโลแคลอรี่)
170
โปรตีน
(กรัม)
17
คาร์โบไฮเดรต
(กิโลแคลอรี่)
12
ไขมัน
(กรัม)
6
โซเดียม
(มิลลิกรัม)
271

ส่วนประกอบ
เนื้อปลาทูแกะ (ใช้ปลาทูสด 1 ตัว)
145 กรัม
พริกขี้หนูแดง (4กรัมนำไปคั่ว 5 กรัมหั่นแว่น)
9 กรัม
พริกขี้หนูเขียว (4กรัมนำไปคั่ว 5 กรัมหั่นแว่น)
9 กรัม
หอมแดงหั่นแว่น (นำคั่ว) (40นำไปคั่ว 30หั่นแว่น)
70 กรัม
กระเทียมกลีบเล็ก
20 กรัม
พริกชี้ฟ้าคั่ว
66 กรัม
ต้นหอมซอย
1 กรัม
ผักชีใบ
1 กรัม
ตะไคร้คั่ว
15 กรัม
แตงกวา
134 กรัม
กะหล่ำต้มเคียง
200 กรัม
มะเขือม่วงลูกเล็ก
50 กรัม
แครอทต้มหั่นแท่ง
80 กรัม
ข้าวโพดอ่อนต้มผ่าครึ่ง
40 กรัม
อายิโนะโมะโต๊ะ
4 กรัม
น้ำมะนาว
25 กรัม
น้ำตาลปิ้ป
10 กรัม

วิธีทำ
1. ตั้งน้ำในหม้อซึ้งนึ่งปลาทูจนสุก และแกะเนื้อปลาทู
ขั้นตอนแรกของวิธีทำน้ำพริกปลาทู เริ่มจากการเตรียมอุปกรณ์สำหรับการนึ่งปลาทู โดยนำผ้ารองนึ่งมาปูไว้ตรงฐานหม้อ เพื่อเตรียมสำหรับการนึ่ง หากใครอยากให้ปลาทูมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สามารถนำใบตองมาใช้แทนได้ตามใจชอบ จากนั้นใส่เกลือ และน้ำสะอาดตามลงไป เปิดไฟ และรอจนน้ำเดือด
ระหว่างนี้ให้นำปลาทูสดออกมา และควักไส้รวมทั้งเหงือกออกจนหมด จากนั้น นำไปแช่ในน้ำเกลือ 10 นาที ต่อด้วยแช่ลงในน้ำสะอาดอีก 1 รอบ แล้วหักคอปลา โดยใช้นิ้วกดลงไปตรงกระดูกคอ เสร็จแล้วนำปลาทูไปจัดเรียงลงในหม้อซึ้งในขณะที่น้ำกำลังเดือด
ในการทำน้ำพริกปลาทูแห้ง ให้ตั้งไฟ โดยใช้ไฟอ่อนเท่านั้น หากใช้ไฟแรงจะทำให้เนื้อปลาแตก และเละได้ โดยใช้เวลาในการนึ่งปลาทูเพียง 10 นาที หลังจากที่ปลาทูสุกแล้ว นำปลาทูลงไปแช่ในน้ำเย็น เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของปลาทูแข็ง และมีความด้าน จากนั้น นำมาใส่จานพักไว้ เพื่อเตรียมนำแกะเนื้อปลาทูในลำดับต่อไป
เคล็ดลับ: ในการแกะเนื้อปลาทู เริ่มจากการนำมีดหรือช้อน เคาะตรงบริเวณครีบหน้าท้องของปลาทู ซึ่งจะทำให้เนื้อของปลาทูร่อนออกจากก้างอย่างง่ายดาย จากนั้น ดึงครีบหลัง และครีบหน้าท้องออกให้หมด รวมถึงดึงก้างตรงส่วนหัว และตรงกลางลำตัวออก เท่านี้ก็จะทำให้เวลาทานน้ำพริกปลาทูแห้งจะไม่มีก้างปลามากวนใจอีกต่อไป นอกจากนี้ ยังคงรูปร่างของปลาทูไว้เหมือนเดิมอีกด้วย2. ตั้งกระทะคั่วหอมแดง พริก และกระเทียมให้สุก หอม
สิ่งหนึ่งที่สำคัญ และจะขาดไปไม่ได้สำหรับการทำน้ำพริกปลาทูแห้ง คือ การนำพริกชนิดต่าง ๆ ลงไปคั่วกับหอมแดง และกระเทียมในกระทะร้อน ๆ
อันดับแรก ให้นำพริกชี้ฟ้า พริกขี้หนูแดง พริกขี้หนูเขียว หอมแดง และกระเทียมที่หั่นแล้ว ลงไปคั่วพร้อมกัน โดยหอมแดงกับกระเทียม ควรหั่นให้มีชิ้นขนาดเท่า ๆ กัน เพราะจะช่วยให้สุกพร้อมกัน โดยที่ไม่มีชิ้นใดชิ้นหนึ่งไหม้เกรียมจนเกินไป
เคล็ดลับ: วิธีการคั่วพริกที่ถููกต้อง จะต้องใช้ไฟอ่อนในการคั่วเท่านั้น นอกจากนี้ ต้องคอยสังเกตสีของพริกหรือกระเทียมที่เปลี่ยนไป โดยคั่วส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันอย่างสม่ำเสมอ ให้พริก หอมแดง และกระเทียมที่จะนำไปทำเมนูน้ำพริกปลาทูแห้งสุกทั่วถึงกันทุกชิ้น เมื่อคั่วไปสักพักจะได้กลิ่นหอมฟุ้งขึ้นมาจากกระทะ แสดงว่า พริกสุกได้ที่แล้ว ให้เตรียมนำลงจากเตาทันที3. โขลกวัตถุดิบที่คั่วสุกให้ละเอียด และใส่เนื้อปลาทู
หัวใจสำคัญของวิธีทำน้ำพริกปลาทู คือ การตำพริกโดยใช้ครกหิน การตำจะสามารถดึงรสชาติของพริก ที่มีความเผ็ด และมีรสที่ร้อนแรง ช่วยให้เมนูน้ำพริกปลาทูแห้งมีรสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น แตกต่างจากวิธีการนำมาสับหรือการปั่นในเครื่องโดยสิ้นเชิง
อันดับแรกนำพริก หอมแดง กระเทียม และตะไคร้ที่คั่วจนสุกได้ที่แล้ว นำมาตำอย่างละเอียด ให้ความหอมหวานจากกระเทียม และหอมแดงค่อย ๆ ซึมออกมา จากนั้นนำปลาทูที่แกะก้างไว้เรียบร้อยแล้ว ใส่ลงไปในครก ตำพอแหลกให้ปลาทูส่งกลิ่นหอม
เคล็ดลับ: เนื่องจากเนื้อปลาทูจะมีความแห้ง ให้ใส่เกลือลงไปเพียงหยิบมือในระหว่างการโขลกหรือตำปลาทู เกลือจะเข้าไปช่วยเพิ่มแรงเสียดสี ทำให้โขลกหรือตำตัวปลาได้ง่ายกว่าเดิม4. ปรุงรสด้วยอายิโนะโมะโต๊ะ เติมน้ำ แล้วโขลกให้เข้ากัน
วิธีทำน้ำพริกปลาทูให้มีความอร่อยอูมามิ มีความหอมจากน้ำมะนาวสด และความเข้มข้น แซ่บซี๊ดของน้ำพริกปลาทูแห้ง คือ การใส่ผงนัว หรืออายิโนะโมะโต๊ะลงไป ตามด้วยน้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊ป หากน้ำพริกมีความแห้งเกินไปให้เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย จากนั้น โขลกทุกอย่างให้เข้ากัน ในระหว่างนั้นให้หมั่นชิมรสชาติ และสามารถปรับเปลี่ยนในแบบที่เราชอบได้เลย
5. ต้มผักเคียง และน็อคในน้ำเย็น เพื่อคงความสด กรอบ
สำหรับเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ในเมนูน้ำพริกปลาทูแห้ง ได้แก่ แตงกวา กะหล่ำต้ม มะเขือม่วงลูกเล็ก แครอทต้มหั่นแท่ง และข้าวโพดอ่อนต้มผ่าครึ่ง พร้อมไข่ต้มสัก 3-4 ฟอง โดยวิธีลวกผักให้เขียวสด และไม่ดำคล้ำ คือ การนำผักมาล้างให้สะอาดแล้วซับให้แห้ง จากนั้นนำผักที่ต้องการลวกลงไปต้มในน้ำเดือด
เคล็ดลับ: วิธีการลวกผักในน้ำเดือด คือ กดผักให้จมอยู่ใต้น้ำ หากต้องการให้ผักของเรามีสีสันที่สดขึ้น สามารถใส่เบกกิ้งโซดาเพียงปลายช้อนชา จากนั้น ใช้เวลาในการลวก 2 - 4 นาที เมื่อเสร็จแล้ว นำลงจากเตา และนำไปแช่ในน้ำเย็นจัดทันที เพราะจะช่วยให้ผักของเราคงความสด กรอบ และเปี่ยมไปด้วยคุณค่าของสารอาหาร6. ตักน้ำพริกใส่ถ้วย โรยผัก และจัดผักเคียงพร้อมเสิร์ฟ
นำผักที่ลวกทั้งหมดแล้วมาจัดใส่จาน จากนั้นนำน้ำพริกปลาทูแห้งใส่ถ้วย และจัดวางลงไปให้สวยงาม และที่สำคัญ อย่าลืมใส่ต้นหอมซอยกับผักชีใบ เพิ่มสีสันให้กับน้ำพริกปลาทูแห้งเป็นการปิดท้าย
เคล็ดลับ: หากยังไม่ได้ทานน้ำพริกปลาทูแห้งในวันนั้นทันที ไม่แนะนำให้ใส่ต้นหอมซอยกับผักชีตามลงไป เพราะจะทำให้เก็บน้ำพริกปลาทูแห้งของเราไว้ได้ไม่นาน
เมนูที่น่าสนใจ
ดูสูตรเมนูอูมามิอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ
เมนูที่น่าสนใจ
ดูสูตรเมนูอูมามิอื่นๆ ที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ